- PlanToys คือบริษัทผลิตของเล่นไม้สัญชาติไทยที่ส่งต่อความสุขให้กับเด็กๆ ทั่วโลกมาแล้วกว่า 65 ประเทศในระยะเวลา 39 ปี โดยเลือกใช้วัตถุดิบและกระบวนการผลิตที่ห่วงใยต่อทั้งคนและสิ่งแวดล้อม
- การทำงานของ PlanToys เน้นแนวคิดการทำของเล่นอย่างมีคุณภาพโดยไม่เอาเปรียบและเบียดเบียนใคร ไม่ว่าจะพนักงานด้วยกันเอง ลูกค้า สังคม หรือสิ่งแวดล้อม
- สิ่งสำคัญคือระบบการทำงาน PlanToys จะเน้นความเป็นครอบครัวพี่น้องและตั้งเป้าเป็น happy organization มอบสวัสดิการช่วยเหลือพนักงาน เพื่อให้ความสุขกระจายตัวตั้งแต่ผู้ผลิตไปจนถึงเด็กๆ ที่จะได้เล่นของเล่น
ถ้าให้มองหาแบรนด์สินค้าที่คิดถึงผู้บริโภคและโลกมากที่สุด เรานึกถึง PlanToys แบรนด์ของเล่นที่โดดเด่นในเรื่องการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์เพื่อตอบโจทย์พัฒนาการเด็ก และเลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับทั้งคนและสิ่งแวดล้อม
ไม่ว่าจะเป็นบ้านตุ๊กตาพร้อมเฟอร์นิเจอร์หลากรูปแบบ ชุดอาหารเช้า กล้องขนาดพกพา เครื่องดนตรี ของเล่นสารพัดอย่างที่ผ่านการดีไซน์ด้วยความใส่ใจเด็กทุกช่วงวัย ล้วนผลิตมาจากไม้ยางพาราที่หมดอายุการใช้งานแล้ว พร้อมสีที่ไม่มีสารตะกั่ว กาวที่ไม่มีสารก่อมะเร็ง และยังมีกระบวนการผลิตที่ห่วงใยทั้งคนทำงานและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ปลายทางได้ผลิตภัณฑ์ที่ส่งต่อถึงมือเด็กๆ อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย



ด้วยระยะเวลากว่า 39 ปีนับตั้งแต่วันแรกที่พวกเขาเริ่มเดินเครื่องการผลิตของเล่นไม้จนถึงตอนนี้ วิธีคิดและการทำงานร่วมกันแบบไหนที่ทำให้ผลิตภัณฑ์ของ PlanToys ส่งต่อไปสร้างความสุขให้เด็กๆ ได้อยู่เสมอ
เราตามไปคุยกับ วิฑูรย์ วิระพรสวรรค์ ผู้ก่อตั้งบริษัท แปลนครีเอชั่นส์ จำกัด, โกสินทร์ วิระพรสวรรค์ กรรมการผู้จัดการ เกี่ยวกับแนวคิดการทำของเล่นของ PlanToys และตามไปดูเบื้องหลังการผลิตของเล่นไม้ที่จังหวัดตรัง พร้อมพูดคุยกับพนักงานผู้ร่วมสร้างผลิตภัณฑ์ความสุขให้กับเด็กๆ กัน
“ทำของเล่นให้เด็กมีความสุข คนทำก็ต้องมีความสุข” – วิฑูรย์ วิระพรสวรรค์
People Management

จุดเริ่มต้นในการก่อตั้ง PlanToys คืออะไร
เริ่มจากที่ผมอยู่ในกลุ่มแปลน เป็นกลุ่มของนิสิตจากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาฯ และเพื่อนต่างมหา’ลัย ที่ก่อตั้งเมื่อ 45 ปีที่แล้ว เราเรียนจบแล้วก็มีความตั้งใจกันว่าจะตั้งบริษัททำงานด้านสถาปัตย์ แล้วนำเงินส่วนหนึ่งไปช่วยเหลือหน่วยงานต่างๆ หรือขบวนการทางสังคมที่ต้องการทำให้ประเทศดีขึ้น
แต่สักพักเราก็รู้สึกว่า ไม่ว่าจะมีวิธีคิดยังไงหรือจะเชื่ออะไรก็แล้วแต่ วิธีคิดต้องผ่านการกระทำ การกระทำก็คือคนนั่นแหละ กลุ่มแปลนเลยคิดว่าในการเปลี่ยนแปลงสังคมไม่น่าจะหวังจากคนที่เติบโตแล้วเพราะเขาถูกหล่อหลอมจากสังคมเก่าและคิดแบบนั้นตั้งแต่เด็ก ถ้าจะให้สังคมดีกว่าเดิมมันน่าจะเริ่มจากเด็กหรือเปล่า เราก็คุยกันว่าน่าจะมาทำเรื่องเด็ก ก็เลยเกิดเป็นธุรกิจขึ้นมา 3 อย่างคือ โรงเรียน สื่อสิ่งพิมพ์ และของเล่นซึ่งก็คือ PlanToys
แล้วเราก็ตั้งใจว่าเมื่อเราทำธุรกิจก็จะแบ่งรายได้ไปทำงานด้านสังคมด้วย นั่นหมายถึงว่าถ้าเรามีรายได้ 100 เราจะแบ่งครึ่งหนึ่งไว้บริษัทเพื่อพัฒนางานต่อไป อีกครึ่งหนึ่งเราจะแบ่งเป็นสามส่วน คือ หนึ่ง ให้พนักงาน สอง ให้ผู้ถือหุ้น ซึ่งก็จะได้ปริมาณเท่ากับพนักงานเลย ถือว่าคนหนึ่งลงทรัพย์ คนหนึ่งลงแรง ส่วนที่สามก็คือทำเรื่องสังคมและสิ่งแวดล้อม
ตอนนั้นความตั้งใจในการทำของเล่นให้เด็กคืออะไร
PlanToys อยากเป็นตัวช่วยทำสื่อหรือของเล่นเพื่อให้เด็กได้รับการพัฒนาอย่างสมวัย นั่นหมายถึงเราให้นักพัฒนาการเด็กเข้ามามีส่วนร่วมในการออกแบบร่วมกับดีไซเนอร์ ยุคนั้นของเล่นเพื่อการศึกษามีน้อยมาก ไม่ว่าในไทยหรือต่างประเทศ ส่วนใหญ่จะมีรูปทรง รูปแบบแนว traditional เราเลยพยายามใช้การออกแบบมาพัฒนาของเล่นเพื่อการศึกษา สร้างความสนใจให้เด็กมากขึ้น
แล้วเราก็มีหลักการว่าการทำธุรกิจจะใช้แนวคิด 3 อย่างคือ sustainable material วัสดุทดแทนกันได้, sustainable manufacturing และ sustainable mind
เราไม่ได้ทำธุรกิจอะไรก็ได้ เราทำโปรดักต์ เป็นธุรกิจที่เด็กได้รับการพัฒนาให้พร้อมที่จะมีชีวิตอยู่ในโลก การมีชีวิตอยู่ในโลกได้เด็กก็ต้องเข้าใจตัวเอง คือรู้จักตน รู้ว่าตัวเองมีสกิลอะไร มีความคิดยังไง รู้จักโลกด้วย โลกข้างนอกมันเป็นยังไง ก็คือเอาชุดความคิดไปเข้าใจโลกที่มันเป็นจริง
ดังนั้น sustainable mind หมายถึงเราทำของเล่นดีๆ เน้นพัฒนาการของเด็ก ไม่ทำของเล่นที่เป็นเนกาทีฟ เช่น ปืน ดาบ ของเล่นประเภทรบราฆ่าฟัน รถถังเราไม่มี แต่เรามีรถเก็บขยะ (หัวเราะ)
แล้วทำไมของเล่น PlanToys ถึงต้องห่วงใยสิ่งแวดล้อม
เราเป็นบริษัททำธุรกิจ ทำมาหากิน ไม่ได้ตั้งใจทำเรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก แต่ตอนเริ่มต้นก็มาคุยกันว่าแล้วธุรกิจแบบไหนล่ะที่เราจะทำ พอดีช่วงที่เป็นนักศึกษากับช่วงเริ่มทำงานด้านสถาปัตย์เรารู้สึกว่าสังคมมีคนเอาเปรียบ เบียดบังสิ่งแวดล้อม เราก็ไม่อยากทำธุรกิจแบบนั้น เราไปว่าเขาไว้เยอะ ถ้าจะทำเองมันก็อาย (หัวเราะ)
เราเลยคิดว่าถ้าอยากทำธุรกิจดีๆ วิธีทำธุรกิจก็ต้องดีด้วย ก็มาตีโจทย์คำว่าดีของเรา นั่นคือหนึ่ง ไม่เอาเปรียบ เพราะเราไม่ชอบให้คนเอาเปรียบ เราก็จะไม่เอาเปรียบใคร ทั้งพนักงานของเราเอง คู่ค้า และสังคม สอง ไม่เบียดเบียน เพราะเราไม่ชอบให้คนเบียดเบียน ไม่ว่าจะกับคนด้วยกันเอง กับสัตว์ หรือกับสิ่งแวดล้อม
ดังนั้นเราเลยเอาสองอย่างนี้มาแปลงเป็นการทำงาน ซึ่งก็ไม่ได้เป็นสูตรสำเร็จหรือมีเช็กลิสต์ว่าต้องทำอะไรบ้าง แต่อยากให้กระบวนการมันครอบคลุมวิธีคิดและการทำธุรกิจของเราทั้งหมด นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงทำของเล่นจากไม้ยางพาราหมดอายุ ใช้สีที่เป็น water-based ไม่มีสารตะกั่ว ใช้กาวที่ไม่มีสาร formaldehyde ที่เป็นสารก่อมะเร็ง เอาเศษไม้ที่ไม่ใช้ไปทำเป็นพลังงานไฟฟ้า ซึ่งทั้งหมดก็เริ่มจากความคิดที่ว่าเราไม่อยากเบียดเบียนตัวเองและพนักงานก่อนนั่นแหละ
อย่างผมต้องเดินเข้าไปในโรงงานประจำ เจอฝุ่นเจอขี้เลื่อยในโรงงานเยอะ เราเลยติดตั้งเครื่องดูดฝุ่น ปรากฏว่าเสียค่าไฟ 40 เปอร์เซ็นต์ ต้นทุนสูงมาก ไม่ไหว แล้วจะทำยังไง พวกฝุ่นมันเอาไปทำอะไรได้อีกบ้างไหม เราเลยคิดเอามาพัฒนาด้วยการผสมกับสีออร์แกนิก อัดด้วยความร้อนจนออกมาเป็นของเล่น แล้วเราก็เอาไปขาย ใช้ชื่อว่า PlanWood นี่มันก็มาจากความขี้เหนียวของเรา (หัวเราะ)
ดังนั้นทั้งหมดที่เราทำเพราะอยากจะทำและไม่อยากเจอเรื่องที่ไม่ชอบ เราไม่ได้คิดแปลกกว่าชาวบ้าน เราทำเพราะคิดว่านี่น่าจะดีกับตัวเรา ดีกับพนักงาน ที่ต้องเดินในโรงงานทุกวัน พอถึงวันหนึ่งที่โลกเปลี่ยน สังคมเปลี่ยน มีคนบอกว่าสิ่งที่เราทำมันได้ประโยชน์กับโลกด้วย เราก็โอเค ถ้าโลกจะเอาไปเราก็ไม่ว่า (หัวเราะ)

คุณส่งต่อวิธีคิดสองอย่างนี้กับพนักงานยังไงจนทำให้โรงงานของคุณเป็น sustainable manufacturing
หลักๆ เวลาพูดเรื่องงานกับพนักงานผมไม่ค่อยพูดเรื่องสิ่งแวดล้อม sustain อะไรขนาดนั้น แต่จะพูดถึงเรื่องงานในชีวิตประจำวันที่ต้องทำให้มันดี ปลอดภัย เขาเรียกว่าสุขชีวอนามัยจากตัวเรา ทำยังไงเราถึงจะได้ประโยชน์จากสิ่งที่ทำอยู่
แล้วก็เอาสองแนวคิดที่ไม่เอาเปรียบ ไม่เบียดเบียน มาส่งต่อผ่านสองทาง ทางแรกคือทำเป็นระเบียบของบริษัท เราจะมี procedure ในการทำงานของแต่ละตำแหน่ง อย่างเช่นทีมออกแบบจะมีเรื่องการผลิตที่เป็นความปลอดภัยของเด็ก การไม่ใช้วัสดุที่เป็นอันตราย เรื่องของความเป็นธรรม ทางที่สองคือผ่านชีวิตประจำวัน โดยการเป็นแบบอย่างหรือการชักชวนกันทำ เช่น การงดใช้พลาสติก โฟม เราพยายามไม่ใช้ของที่มีปัญหาสำหรับสิ่งแวดล้อม อย่างแต่ก่อนเด็กชอบไปซื้อน้ำขวดมาดื่มกัน PlanToys เลยทำระบบน้ำกรองสะอาดมาบริการพนักงาน ไม่มีขวดมาเติมเราก็ซื้อกระบอกให้คนละอัน กรอกน้ำไปกินที่บ้านได้เลย
แค่นี้เราก็ภูมิใจในสิ่งที่เราทำแล้วนะ เราบอกพนักงานตลอดว่าเวลาทำเรื่องดีๆ ไม่ต้องสนใจหรอกว่าใครจะชื่นชมหรือเปล่า แต่เราต้องชื่นชมตัวเราเอง เราจะได้มีกำลังใจ ไม่ต้องไปโทษคนอื่นว่าไม่ทำ มีแต่เราทำ คือเราอาจจะไม่ได้เป็นบริษัทที่ดีที่สุดในโลก แต่เราพยายามทำเรื่องดีๆ ให้มากเข้าไว้