ของเล่นชนิดปืนมีหลายประเภท เช่น ปืนอัดลม ปืนลูกดอก ปืนเหรียญ ปืนลูกบอล เป็นต้น ของเล่นเหล่านี้อาจเป็นอันตรายต่อตาได้ การบาดเจ็บที่ตาเกิดได้จากแรงกระสุนกระแทกที่ลูกตาทำให้เกิดเลือดออกในช่องลูกตา ซึ่งต้องรับการรักษาและการหยุดการเคลื่อนไหวในระยะแรก เพื่อป้องกันการมีเลือดออกมากขึ้น ในบางรายอาจก่อให้เกิดต้อกระจก ตามมาหลังการกระแทก บางรายกระสุนอาจทะลุเข้าฝังในลูกตาหรือกล้ามเนื้อตา บางรายเกิดการแตกของลูกตาและต้องผ่าตัดควักลูกตาทิ้งไป
ในประเทศพัฒนาได้มีความพยายามที่จะควบคุมของเล่นอันตรายโดยได้ออกมาตรฐานของเล่นที่เป็นลักษณะปืนที่ใช้ยิงได้ (ปืนอัดลม ปืนลูกดอก ปืนลูกบอล) โดยได้กำหนดความแรงไว้ไม่ให้เกินมาตรฐานความปลอดภัยที่จะเป็นของเล่นได้ เช่น ในมาตรฐานยุโรปกำหนดให้กระสุนที่นิ่ม ยืดหยุ่นได้มีความแรงไม่เกิน ๐.๕ จูล ส่วนกระสุนแข็งต้องมีความแรงไม่เกิน ๐.๐๘ จูล มาตรฐานที่สองคือมาตรฐานออสเตรเลีย ซึ่งเน้นการตรวจสอบพละกำลังการทะลุทะลวง โดยได้ผลิตแผ่นเยื่ออะลูมินัมฟอยล์มาตรฐานขึ้นมา และเมื่อนำของเล่นประเภทยิง มีกระสุนมาตรวจสอบ หากกระสุนสามารถถูกยิงผ่านทะลุแผ่นเยื่อนี้ไปได้ ของเล่นชิ้นนั้นไม่สามารถขายได้
ในบ้านเรา กระทรวงอุตสาหกรรมได้ควบคุมความปลอดภัยของเล่นชนิดปืนโดยใช้มาตรฐานเดียวกับยุโรป
ปืนอัดลม
ปืนอัดลม เป็นปืนพลาสติก มีกระสุนเป็นเม็ดพลาสติกกลมเล็กๆ กระสุนส่วนใหญ่เป็นสีเหลือง สีอื่นก็มีแต่ไม่นิยม ราคาตกกระบอกละ ๖๐-๒๐๐ บาท แต่ถ้าเป็นปืนที่มีความแรงเพิ่มขึ้น หรือสามารถยิงกระสุนติดต่อกันเป็นชุดได้ ราคาจะสูงเพิ่มขึ้น ปืนที่ราคาแพงจะมีความแรงมากขึ้น อันตรายก็รุนแรงขึ้นมากเช่นเดียวกัน ปืนอัดลมที่มีขายทั่วไปนี้เป็นอันตรายต่อลูกนัยน์ตาเด็กจำนวนมาก ในประเทศสหรัฐอเมริการายงานว่า มีคนที่บาดเจ็บจากปืนอัดลมประมาณ ๓๐,๐๐๐ รายต่อปี ในจำนวนนี้ร้อยละ ๘๑ เป็นเด็กและวัยรุ่นอายุน้อยกว่า ๑๙ ปี การบาดเจ็บนี้ต้องรับการรักษาในโรงพยาบาลร้อยละ ๕ ในจำนวนนี้ร้อยละ ๓๗ เกิดจากการบาดเจ็บที่ลูกนัยน์ตา ในประเทศไทยคาดการณ์ทั่วประเทศน่าจะมีการบาดเจ็บนี้กว่า ๙,๐๐๐ รายต่อปี ปืนอัดลมทั่วไปจะสามารถยิงให้กระสุนเกิดความเร็วได้ไม่น้อยกว่า ๑๐๐ เมตรต่อวินาที หากกระสุนหนักประมาณ ๑ กรัม การยิงจะเกิดแรง ๑๐ จูลซึ่งเกินมาตรฐานถึง ๒๐ เท่า อันจะเกิดอันตรายต่อลูกนัยน์ตาได้อย่างง่ายดาย
การป้องกัน ที่ดีที่สุดคือพ่อแม่ต้องไม่่สนับสนุน ให้ลูกเล่นของเล่นที่มีลูกกระสุนทุกชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเภทปืนอัดลมทุกกลุ่มอายุ แม้ว่าเด็กโตจะสามารถเล่นอย่างระมัดระวังตัวเองได้ก็ตาม แต่มักจะเป็นเหตุให้เด็กอื่นในบ้านได้รับบาดเจ็บ โดยเฉพาะน้องตัวเล็กในบ้าน พ่อแม่ช่วยกันดูแลชุมชนของตน อย่าให้มีปืนอัดลมขายในตลาด พ่อแม่ช่วยกันเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมี การตรวจสอบความแรงของปืนอัดลมที่มีในตลาด รวมทั้งปืนของเล่นที่มีกระสุนทุกชนิด เมื่อพบว่ามีความแรงเกินกว่ามาตรฐานควรมีมาตรการควบคุมเรียกเก็บ จากตลาด การวางขายทั่วไปควรเป็นสิ่งต้องห้าม หน่วยงานที่รับผิดชอบไม่ว่าจะเป็นสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต้องช่วยกันเร่งมือในการตรวจจับของเล่นประเภทนี้เพื่อลดการบาดเจ็บในเด็ก