Toys “R” Us อาณาจักรของเล่นสำหรับเด็กทุกช่วงวัย

ขายของเล่น แต่ทอยส์ “อาร์” อัส (Toys “R” Us) คืออาณาจักรแห่งการเรียนรู้กึ่งสวนสนุกที่ใหญ่ที่สุดสำหรับเด็กๆ ทุกช่วงวัย

อัส (Toys “R” Us) ร้านขายของเล่นในสหรัฐอเมริกา มีสาขาตั้งอยู่ในยุโรป เอเชีย โอเชียเนีย แอฟริกาและแคนาดา ทั้งในแบบแฟรนไชส์และไลเซนส์ ร้านสาขาใหญ่ในนครนิวยอร์กที่ตั้งอยู่บริเวณไทม์สแควร์ เป็นร้านขายของเล่นที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยทอยส์ “อาร์” อัส เปิดให้บริการในประเทศไทยครั้งแรกในปี 2548 จนถึงปัจจุบัน ทอยส์ “อาร์” อัส ในประเทศไทยมีทั้งหมด 13 สาขา (8 สาขาในกรุงเทพฯ และอีก 5 สาขาในต่างจังหวัด) โดยภายในร้านจะมีการแบ่งเป็นโซนต่างๆ เพื่อให้เด็กแต่ละช่วงวัยได้เรียนรู้แตกต่างกันไป มีทั้งหมด 7 โซนด้วยกัน ประกอบไป

BoysAction & Adventure AndBoys Vehicle World (เมืองซุปเปอร์ฮีโร่และเครื่องยนต์มหาสนุก)
เป็นเมืองของเล่นสำหรับเด็กผู้ชายซึ่งเต็มไปด้วยของเล่นประเภทยอดมนุษย์, ซุปเปอร์ฮีโร่จำลองจากหนังและการ์ตูนชื่อดัง, รถยนต์,เรือ, เครื่องบิน บังคับวิทยุ, รถยนต์โลหะย่อส่วน, โมเดลรถ, เครื่องบิน, เฮลิคอปเตอร์, ชุดแฟนซีซูเปอร์ฮีโร่พร้อมอุปกรณ์ตกแต่ง

Let’s Play (Girls’ Favorites) เมืองเจ้าหญิง
เป็นเมืองของเล่นที่เด็กผู้หญิงชื่นชอบซึ่งเต็มไปด้วยของเล่นที่จะทาให้ความฝันของเด็กผู้หญิงทุกคนเป็นจริงไม่ว่าจะเป็นตุ๊กตาประเภทต่างๆ เช่น ตุ๊กตาแฟชั่น, ตุ๊กตาเด็กทารก, อุปกรณ์ในการแต่งตัวแฟนซี, ตุ๊กตาสัตว์แสนรัก, ของเล่นประเภทเครื่องครัว, ของเล่นประดิษฐ์สาหรับเด็กหญิง เช่นลูกปัดต่างๆ

Family Fun & Games เมืองเกมหรรษา
ของเล่นประเภทเกมสำหรับทุกคนในครอบครัว เพื่อพัฒนาทักษะและสร้างความสนุกสนานจากการร่วมเล่นเกมด้วยกันของสมาชิกในครอบครัว

Learning & Fun เมืองของเล่นสนุกคิด
ของเล่นที่เป็นสื่อพัฒนาทักษะในด้านต่างๆ ของเด็ก สอดแทรกไปกับการเล่นของเล่นตามช่วงวัย เช่น บล็อกไม้, ศิลปะประดิษฐ์, ชุดอุปกรณ์เพื่อการเรียนรู้, แป้ง/ดินประดิษฐ์ญี่ปุ่น, ตัวต่อ, ของเล่นทางวิทยาศาสตร์,ของเล่นไฟเบอร์, กล้องส่องทางไกล, อุปกรณ์ที่ใช้ในการเรียน เช่น เครื่องเขียน,สมุด, สีเทียน

Sports & Outdoor Fun เมืองกีฬาสุดมัน
ของเล่นที่ใช้ในการออกกำลังกายและอุปกรณ์ที่เล่นกลางแจ้ง เช่น ลูกบอล, ของเล่นสนามประเภทกระดานลื่น, รถยนต์เด็กโดยใช้พลังงานแบตเตอรี่, สกู๊ตเตอร์, สระว่ายน้า, อุปกรณ์ที่เล่นในน้า, และอุปกรณ์ที่เล่นบนชายหาด

นิทรรศการ Let’s Unbox! 2022 Hong Kong Art Toy Story Exhibition เซ็นทรัลเวิลด์

สาวก Art toy ห้ามพลาด! เซ็นทรัลเวิลด์ เปิดบ้านต้อนรับผลงาน Art Toy ระดับโลกจากผลงานของ 17 นักออกแบบชื่อดัง ในงาน Let’s Unbox! 2022 Hong Kong Art Toy Story Exhibition, Thailand Chapter ซึ่งจัดขึ้นครั้งแรกในประเทศไทย โดย Innovative Entrepreneur Association (IEA)

โซน Amazing Art Toy Zone จัดแสดง Art Toy จาก 7 ศิลปินชื่อดัง ในรูปแบบกล่องของเล่นขนาดยักษ์ ให้ได้ชมแบบละเอียดในทุกชั้นตอนการสร้างสรรค์ ตั้งแต่ภาพสเก็ตช์

โซน Brilliant Art Toy Zone จัดแสดงผลงาน 8 ศิลปินหน้าใหม่มาแรง ที่โดดเด่นน่าจับตามอง สัมผัสถึงรูปแบบการออกแบบชิ้นงานที่สดใหม่ ฉีกรูปแบบ Art toy ที่เคยเห็น

โซน Classic Art Toy Zone พาทุกคนย้อนเวลาไปยังจุดกำเนิด Art Toy ของฮ่องกง พร้อมไฮไลท์ คอลเลคชั่นหายากและเป็นที่ต้องการในตลาดของนักประมูลมาจัดแสดงให้ได้ชม อาทิ “Amazing Twins”, “Brothersfree” และ “Michael Lau”

โซน Discovery Zone โซนที่ทุกคนได้ใกล้ชิดกับศิลปินเจ้าของผลงาน ร่วมชมผลงาน พูดคุยแจกลายเซ็น พร้อมกิจกรรมให้ร่วมสนุกมากมาย อาทิ กิจกรรม AR ที่จะพาทุกคนสัมผัสถึงความรู้สึกของโลกเสมือนของ Art Toy ในจินตนาการ ซึ่งโซนนี้ทุกท่านจะได้ร่วมเก็บภาพประทับใจ พร้อมแชร์เพื่อร่วมสนุกลุ้นรับรางวัลพิเศษจากศิลปิน

ภายในงาน พบของสะสมกว่า 300 ชิ้น จากศิลปินชาวฮ่องกง ซึ่งได้เริ่มต้นตั้งแต่ 30 ปีที่แล้ว และนิทรรศการครั้งนี้ยังได้คงรูปแบบของการจัดงานแบบดั้งเดิมที่ได้รับความนิยมในฮ่องกงมาตั้งแต่ปี 1990 พร้อมชมผลงานการสร้างสรรค์และออกแบบจากสุดยอด Art ToyDesigner ชื่อดังระดับโลก 17 ท่าน ได้แก่

 Foon Wong (Big boy toy), Husky Kevin, iXTEE, Miloza Ma,Pat Lee, Pucky, Winson Ma, Pelix Ip, Jeffery Yau, Lam Pei, Mickey Mic, Nicolas Lesaffre, Ryan Lee, Spookyworkhk, Steven Choi, Michael Lau และ Amazing twins โดยหลายผลงานถูกนำออกมาจากพิพิธภัณฑ์เพื่อจัดแสดงในงานนี้โดยเฉพาะ 
  นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย อาทิ การเสวนาด้านการออกแบบ Art Toy, ร่วมทำกิจกรรมกับศิลปินนักออกแบบชาวฮ่องกง และนักสะสมชาวไทยตลอดระยะเวลาการจัดงาน 

 สำหรับแฟนคลับและผู้ที่สนใจชม นิทรรศการ Hong Kong Art Toy Story Thailand Story สามารถเข้าชมงานได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ตั้งแต่วันนี้ -18 กันยายน 2565  ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ โซน Eden, Central Court และ Dazzle 

Toy Story ภาพยนตร์ที่ครองใจผู้คนมาอย่างยาวนาน

“Toy Story” ถือเป็นหนึ่งในแอนิเมชันจาก Disney และ Pixar ที่ครองใจผู้คนมาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 1995 ด้วยเนื้อเรื่องที่สนุกและแปลกใหม่ แฝงด้วยข้อคิดที่หลากหลาย จึงทำให้แอนิเมชันเรื่องนี้ได้รับความนิยมและถูกสร้างออกมาเป็นภาพยนตร์แอนิเมชันอีกหลายภาค

ใครที่อยากไปตามดู ไม่ต้องไปหาที่ไหนไกล เพราะวันนี้ ConNEXT ได้รวบรวม Toy Story ทุกภาคเอาไว้ที่นี่ จะมีอะไรบ้าง ไปดูกัน

Toy Story

‘Toy Story’ (1995)

ภาพยนตร์ภาคแรกของ “Toy Story” และภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่องแรกของพิกซาร์ โดยภาคแรกจะพาพวกเราไปทำความรู้จักกับ ‘Woody’ ตุ๊กตาคาวบอยตัวโปรดของ ‘Andy’ แต่วันหนึ่งวู้ดดี้ก็รู้สึกว่าตำแหน่งของเล่นชิ้นโปรดกำลังสั่นคลอนโดยของเล่นที่มีชื่อว่า ‘Buzz Lightyear’ มาดูกันว่าจากคู่แข่งตัวร้ายจะกลายมาเป็นเพื่อนซี้สุดเลิฟอย่างที่เราเห็นในทุกวันนี้ได้อย่างไร ติดตามเรื่องราวทั้งหมดได้ที่ภาคนี้

‘Toy Story 2’ (1999)

หลังจากได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม Woody, Buzz และเหล่าของเล่นกลับมาอีกครั้งใน “Toy Story 2” เมื่อ Woody ถูกลักพาตัวไปโดยนักสะสมของเล่น Buzz และเหล่าของเล่นที่เหลือก็รีบไปช่วย Woody ออกมา แต่ในขณะที่ Woody ถูกขังอยู่ เขาได้พบกับ ‘Jessie’ ตุ๊กตาคาวเกิร์ลและ ‘Bullseye’ ม้าของเล่นคู่ใจของ Woody ที่ได้โคจรกลับมาเจอกันอีกครั้ง เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไปต้องติดตาม

‘Toy Story 3’ (2010)

ในภาคที่ 3 ได้เกิดเหตุไม่คาดฝัน เมื่อ Andy ทำเหล่าของเล่นหล่นไว้ที่สถานรับเลี้ยงเด็กอย่างไม่ตั้งใจ ทำให้ของเล่นของ Andy ได้เจอกับของเล่นชิ้นอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น Barbie, Ken และ Lotso Bear ตุ๊กตาหมีที่เป็นผู้คุมกฎและเปรียบเสมือนหัวหน้าของบรรดาของเล่นที่สถานรับเลี้ยงเด็กแห่งนี้ แล้วพรรคพวกของ Woody และ Buzz จะหลบหนีจากที่นี่ได้อย่างไร มาเอาใจช่วยพวกเขากัน

‘Toy Story 4’ (2019)

เรื่องราวในภาค 4 เกิดขึ้นหลังจากของเล่นของ Andy ไปอาศัยอยู่กับเจ้าของคนใหม่อย่าง ‘Bonnie’ นอกจากนี้ยังมีของเล่นชิ้นใหม่เข้ามาร่วมแจม ซึ่งก็คือ ‘Forky’ ของเล่นที่สร้างโดย Bonnie มาร่วมทีมกับบรรดาของเล่นเดิม ที่สำคัญคือในภาคนี้มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เกิดขึ้น บอกได้เลยว่าต้องมีเสียน้ำตากันแน่นอน

‘Toy Story: Hawaiian Vacation’ (2011)

เรื่องเกิดขึ้นหลังจาก Toy Story ภาค 3 ในช่วงหยุดเรียนภาคฤดูหนาว Ken เสียใจที่ Bonnie ไม่ได้พาเขาไปฮาวายพร้อมกับ Barbie ทำให้เขาพลาดจูบแรกกับ Barbie ที่ฮาวาย เหล่าของเล่นพยายามสร้างบรรยากาศแบบฮาวายไว้ที่บ้านเพื่อทำให้ความต้องการของ Ken สมหวัง

‘Toy Story: Small Fry’ (2011)

เมื่อ Buzz ในเวอร์ชันของเล่นร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดตัวจิ๋วกลัวที่ตัวเองจะไม่มีใครมาเล่น จึงหนีไปหา Bonnie ที่กำลังเล่นกับ Buzz และ Rex อยู่ที่บ่อลูกบอล Buzz ตัวจิ๋วเห็นโอกาสจึงดึง Buzz จมบ่อลูกบอลและหลอก Rex ว่าตัวเองเป็นตัวจริงแล้วกลับไปบ้านของ Bonnie ด้วยกัน Buzz จึงต้องหาทางหนีออกมาจากร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดให้ได้ แล้ว Buzz จะหนีออกมาได้อย่างไร ต้องติดตาม

‘Toy Story: Partysaurus Rex’ (2012)

Bonnie ลืม Rex ไว้ที่อ่างอาบน้ำ ทำให้ Rex ได้พบกับบรรดาของเล่นในห้องน้ำ Rex จึงจัดการเปิดน้ำแล้วปาร์ตี้กับเหล่าของเล่นในห้องน้ำอย่างสนุกสุดเหวี่ยง ถึงแม้จะมีความยาวเพียง 7 นาทีแต่ก็สามารถเรียกเสียงหัวเราะจนผู้ชมได้ทุกครั้ง

‘Toy Story of Terror!’ (2013)

ภาคนี้ถูกปล่อยออกมาเพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลฮาโลวีน ครอบครัวของ Bonnie และเหล่าของเล่นได้เดินทางไปเที่ยวพักผ่อนและนอนค้างที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ความน่ากลัวของโรงแรมนี้เริ่มต้นเมื่อของเล่นค่อยๆ ทยอยหายไปทีละชิ้น บรรดาของเล่นที่เหลือจึงต้องออกไปตามหาของเล่นเหล่านั้นก่อนที่ทุกอย่างจะสายไป

‘Toy Story That Time Forgot’ (2014)

ภาคนี้เป็นตอนพิเศษในช่วงใกล้วันคริสต์มาส โดยของเล่นของ Bonnie จะต้องมาเอาชีวิตรอดจากเหล่าของเล่นอาณาจักรไดโนเสาร์ที่บ้าน ‘Mason’ เพื่อนของ Bonnie พวกเขาจะเอาตัวรอดได้อย่างไร ต้องรีบไปติดตามชมได้ในภาคนี้

‘Forky Asks A Question’ (2019-2020)

Forky จาก Toy Story 4 ได้กลับมาอีกครั้งในซีรีส์ความยาว 10 ตอน โดยแต่ละตอนจะเป็นคำถามเกี่ยวกับโลกใบนี้ที่ Forky สงสัย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงิน มิตรภาพ เวลา หรือแม้แต่เรื่องความรัก Forky จะได้คำถามที่เขากำลังตามหาหรือไม่ ต้องห้ามพลาด

‘Lamp Life’ (2020)

เรื่องราวของ ‘Bo Peep’ ตุ๊กตาเครื่องถ้วยเปลือกไข่ ที่มีรูปร่างเป็นหญิงเลี้ยงแกะ โดยเนื้อหาจะเผยให้เห็นว่าในระหว่าง Toy Story ภาค 2 ถึง ภาค 4 เธอไปทำอะไรมา ก่อนที่จะกลับมารวมตัวกับ Woody เรื่องสั้นนี้สามารถรับชมได้เฉพาะบน Disney Plus เท่านั้น

‘Lightyear’ (2022)

ภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่องล่าสุดในจักรวาล Toy Story มีเรื่องราวเกี่ยวกับการผจญภัยของกัปตัน ‘Buzz Lightyear’ นักผจญภัยอวกาศที่ติดอยู่บนดาวเคราะห์ร้างและพยายามหาทางกลับบ้านหลังจากที่เขาทำภารกิจผิดพลาด เรื่องนี้มีความพิเศษตรงที่เป็นเรื่องราวของมนุษย์ แทนที่จะเป็นของเล่นเหมือนทุกครั้ง แต่สุดท้ายหนังก็ได้เฉลยออกมาว่านี่คือภาพยนตร์ของ Buzz Lightyear ที่ Andy ได้ดูและรู้สึกประทับใจจนต้องไปซื้อของเล่นของหนังเรื่องนี้ และกลายมาเป็นจุดกำเนิดของ Toy Story ภาค 1 ในที่สุด

เชื่อว่าใครที่เติบโตมาพร้อมกับ Toy Story ต้องรู้สึกผูกพันกับบรรดาเหล่าของเล่นจากเรื่องนี้แน่นอน เพราะพวกเขาไม่ได้เป็นเพียงของเล่นที่สร้างความสนุกให้แก่ Andy และ Bonnie เท่านั้น แต่ยังสร้างความสนุกและเสียงหัวเราะให้พวกเราอีกด้วย ใครที่ยังไม่เคยดูภาคไหน ต้องรีบไปตามเก็บแล้ว

10ของเล่น “เทศกาลปีใหม่” ต้องระวัง สำหรับเด็ก

10 ของเล่น "เทศกาลปีใหม่" ต้องระวัง สำหรับเด็ก

“เทศกาลปีใหม่” หลายคนกำลังหาของเล่นเพื่อมอบให้เป็นของขวัญแก่เด็กๆ ลูกหลาน อย่างไรก็ตาม การเลือกของเล่นที่ปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญ เพราะ รายงานในประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่า เด็กที่อายุต่ำกว่า 15 ปี ตายจากของเล่นปีละราว 10 ราย ครึ่งหนึ่งเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี

ในประเทศสหรัฐอเมริกาและหลายประเทศในยุโรป รวมทั้งออสเตรเลีย ญี่ปุ่น มีระบบการบันทึกการบาดเจ็บจากผลิตภัณฑ์ (product related injury surveillance system) ขณะที่ ในประเทศไทยไม่มีระบบการเฝ้าระวังผลิตภัณฑ์ที่ก่ออันตรายโดยตรง เหมือนประเทศสหรัฐอเมริกา ประเทศทางยุโรป รวมทั้งประเทศพัฒนาทั้งหลาย ทำให้ไม่มีข้อมูลที่ต่อเนื่องชัดเจนระบุถึงผลิตภัณฑ์อันตรายทำให้การแก้ไขการถอดถอนผลิตภัณฑ์ออกจากตลาดหรือการชี้และให้เจ้าของผลิตภัณฑ์นำไปแก้ไขในการผลิตจึงยังไม่เกิดขึ้น

สหรัฐ เด็กต่ำกว่า 15 ปี ตายจากของเล่นปีละ 10 ราย

รองศาสตราจารย์ นายแพทย์อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์ กล่าวในงาน แถลงข่าวเรื่อง 10 ของเล่นอันตราย ที่พ่อแม่ต้องระวังในการซื้อเป็นของขวัญให้กับเด็ก โดยระบุว่า การใช้ข้อมูลต่างประเทศมีความสำคัญอย่างมาก เพราะในประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่า

  • เด็กที่อายุต่ำกว่า 15 ปี ตายจากของเล่นปีละประมาณ 10 ราย
  • ครึ่งหนึ่งของเด็กเหล่านี้เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี
  • เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ต้องได้รับการรักษาในห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลด้วยสาเหตุจากการบาดเจ็บที่เกิดจากของเล่นประมาณ 165,000 รายต่อปี
  • ในจำนวนนี้ร้อยละ 34 เป็นเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปี
  • ร้อยละ 60 ของการบาดเจ็บเกี่ยวกับของเล่นนี้เกิดขึ้นกับเด็กผู้ชายประมาณ
  • ร้อยละ 97 ของเด็กบาดเจ็บจากของเล่นที่ได้รับการรักษาในห้องฉุกเฉินอาการไม่รุนแรงสามารถกลับบ้านได้
  • ร้อยละ 3 มีอาการรุนแรงต้องได้รับการรักษาเป็นประเภทผู้ป่วยใน

รายงานปีล่าสุดเมื่อ 22 พ.ย. ที่ผ่านมา พบอัตราการบาดเจ็บในเด็กอายุต่ำกว่า 14 ปี จากของเล่นถึง 404 คน ต่อ 1 แสนคน ปรากฏว่าเป็นของเล่นที่มีขายในประเทศไทยอยู่แทบทุกชิ้น

10 ของเล่น "เทศกาลปีใหม่" ต้องระวัง สำหรับเด็ก

10 ของเล่นควรให้ความสนใจเป็นพิเศษ

ทั้งนี้ 10 ของเล่นที่ควรให้ความสนใจเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นเหตุของการก่อการบาดเจ็บรวมทั้งบางชนิดมีความรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ ได้แก่

1.ของเล่นประเภทลูกล้อใช้ในการขี่ (ride-on toy)

ในประเทศสหรัฐพบว่ามีสัดส่วนร้อยละ 30 ของการตายในเด็กที่เกิดจากของเล่น และเป็นเหตุให้ต้องได้รับการรักษาในห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลอีก 71,500 รายต่อปี ร้อยละ 75 ของการตายมีสาเหตุจากการเล่นในพื้นที่ถนนและถูกยานยนต์ชนิดต่าง ๆ ชน นอกจากนั้นเกิดขึ้นจากการพลัดตก พื้นต่างระดับหรือล้มคว่ำ หรือตกในแหล่งน้ำต่าง ๆ ร้อยละ 47 ของการบาดเจ็บที่เกิดจากของเล่นเป็นการบาดเจ็บที่ศีรษะและบริเวณใบหน้าซึ่งรวมถึง ดวงตา ปาก และหู เช่น

รองเท้าสเก๊ต

หมายถึง รองเท้าที่มีลูกล้อติดอยู่ 4 ล้อ ล้อหน้าสองล้อ ล้อหลังอีกสองล้อ ล้อมีขนาดใหญ่ แข็งแรง ไม่สามารถพับเก็บได้ ตัวสเก๊ตอาจแยกออกจากรองเท้า เวลาจะเล่นผู้เล่นต้องใส่รองเท้าธรรมดาก่อนและนำเอาตัวสเก๊ตมายึดติด สมัยหนึ่งเป็นที่นิยมในเด็กไทย มีลานสเก๊ตให้บริการมากมาย แต่ปัจจุบันความนิยมลดลงไปมาก

สกู๊ตเตอร์

เป็นอุปกรณ์การเล่นที่ยังไม่เป็นที่นิยมมากนักในประเทศไทย กลุ่มที่เล่นมักมีอายุน้อยกว่ากลุ่มอื่น ในประเทศสหรัฐอเมริกาเริ่มมีความนิยมตั้งแต่ปี 2000 มีรายงานการบาดเจ็บจากสกู๊ตเตอร์กว่า 27,600 รายในปี 2000 มีการตาย 5 ราย ร้อยละ 85 ของผู้บาดเจ็บมีอายุน้อยกว่า 15 ปี

ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ คือ การเล่นในพื้นที่ที่ไม่เหมาะสมเกิดการสะดุดล้ม ตกจากสกู๊ตเตอร์ หรือถูกรถชน รวมทั้งการเล่นในพื้นที่ถนนทำให้ถูกรถชนได้ บางรุ่นพบว่าบริเวณแฮนด์หรือมือจับไม่ยึดติดแน่นกับคอสกูตเตอร์ จึงเกิดการหลุดออกขณะใช้ทำให้ล้มบาดเจ็บได้ หนึ่งในสี่จะมีภาวะกระดูกหัก และเคลื่อนที่บริเวณมือและข้อมือ

10 ของเล่น "เทศกาลปีใหม่" ต้องระวัง สำหรับเด็ก

มีการศึกษาหนึ่งพบการบาดเจ็บศีรษะและสมองถึงหนึ่งในสามของการบาดเจ็บ การบาดเจ็บรุนแรงที่ต้องรับรักษาตัวไว้ในโรงพยาบาลพบร้อยละ 5 พบว่าร้อยละ 60 ของการบาดเจ็บสามารถป้องกันได้โดยการสวมใส่อุปกรณ์เสริมความปลอดภัยต่าง ๆ ให้ครบถ้วน

อุปกรณ์การเล่นที่ต้องอาศัยการทรงตัว เช่น รองเท้าสเก๊ต สเก๊ตบอร์ด สกู๊ตเตอร์นี้ ไม่เหมาะสมสำหรับเด็กอายุน้อยกว่า 5 ปี เด็กก่อนวัยเรียนพละกำลังกล้ามเนื้อและความสามารถในการประสานงานของระบบประสาทยังไม่สมบูรณ์พอที่จะควบคุมอุปกรณ์ลื่นไหลที่ต้องบังคับร่างกายให้เกิดภาวะสมดุลย์ในระหว่างการเคลื่อนที่ ขณะเดียวกัน เด็กก่อนวัยเรียนยังไม่เข้าใจเหตุผลของความเสี่ยงต่าง ๆ อย่างแท้จริง ต้องมีผู้ใหญ่ดูแลในระยะที่มองเห็นและเข้าถึงได้ตลอดเวลา

การเล่นต้องใส่อุปกรณ์เสริมความปลอดภัยทุกครั้ง ประกอบด้วยหมวกนิรภัย สนับข้อมือ (wrist guard) สนับศอก (elbow guard) และสนับเข่า (knee guard) เนื่องจากการบาดเจ็บที่ข้อมือจะพบได้บ่อยที่สุดคือประมาณร้อยละ 40 ของการบาดเจ็บทั้งหมด และอาจรุนแรงถึงขนาดกระดูกหักและเคลื่อนได้บ่อย กลไกการบาดเจ็บเกิดจากการล้มในท่าเหยียดแขน ใช้มือยันพื้น และข้อมืออยู่ในท่างอพับมากเกินไป (hyperextension)

ดังนั้น การป้องกันโดยเพิ่มความแข็งแรงของข้อมือโดยใช้แผ่นพลาสติกหรือโลหะเสริมข้อมือไม่ให้หักพับมากเกินไปได้จะช่วยลดการบาดเจ็บของข้อมือได้ มีการศึกษาพบว่าผู้ใส่สนับข้อมือจะลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บได้ถึง 6 เท่า การใส่สนับศอกและสนับเข่าจะลดการบาดเจ็บได้เช่นกัน

อีกการศึกษาหนึ่งพบว่า สนับข้อมือ (wrist guard) จะลดการบาดเจ็บข้อมือลงได้ร้อยละ 87 สนับศอกจะลดการบาดเจ็บข้อศอกร้อยละ 82 และสนับเข่าจะลดการบาดเจ็บของหัวเข่าร้อยละ 32 ต้องเล่นในพื้นที่เตรียมไว้สำหรับเล่นโดยเฉพาะ หรือพื้นที่การเล่นต้องไม่เสี่ยงต่อการตกจากที่สูงและการถูกรถชน ต้องมีการออกแบบสนามหรือทางที่จะใช้เล่นให้เหมาะสมกับอุปกรณ์การเล่นแต่ละชนิด และต้องมีการดูแลสนามหรือทางที่จะใช้เล่นอย่างสม่ำเสมอเช่นไม่ให้มีสิ่งกีดขวาง เศษวัสดุที่จะเข้าไปติดพันลูกล้อ

ผู้เริ่มหัดเล่นต้องได้รับการฝึกฝนและมีผู้ดูแลใกล้ชิด เพื่อป้องกันการบาดเจ็บจากการตก หกล้ม การบาดเจ็บส่วนใหญ่มักเกิดในผู้เริ่มเล่นครั้งแรก ดังนั้นอย่าปล่อยให้เด็กหัดเล่นเองคนเดียว การเริ่มเล่นครั้งแรกๆจะต้องมีผู้ดูแลเสมอ ผู้ดูแลเองต้องมีความรู้ว่าจะระวัง จะฝึกเด็กผู้เล่นได้อย่างไร และจะต้องปฏิบัติตามข้อ 1-4 อย่างเคร่งครัด นอกจากนั้น ผู้เล่นอุปกรณ์ลื่นไหลต้องได้รับการฝึกการล้มตัวที่ถูกวิธีเช่นการล้มแล้วหมุนตัว ไม่ใช่ล้มแล้วเอามือเหยียดยัน ซึ่งจะก่อให้เกิดการบาดเจ็บข้อมือได้มาก

2.ของเล่นชิ้นเล็ก อุดกั้นทางเดินหายใจ

ของเล่นชิ้นเล็กเป็นอันตรายต่อเด็กที่อายุน้อยกว่า 3 ปี เด็กอายุ 4 เดือน จะเริ่มเอามือทั้ง 2 ข้างมาจับกุมกันตรงกลางแล้วเอาเข้าปากดูดอม ต่อมาจะไขว่คว้าเอาของเข้าปากได้ เด็กทารกจะเรียนรู้สิ่งแวดล้อมโดยการใช้ปากเป็นหลัก ของเล่นที่มีความกว้างน้อยกว่า 3.71 ซม.จึงไม่ควรให้เด็กเล่นหรือหยิบได้ถึง เพราะหากเด็กเอาเข้าปากแล้วสำลัก จะทำให้ติดคอจะอุดตันทางเดินหายใจได้

  • ร้อยละ 54 ของการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับของเล่นเกิดขึ้นจากการสำลักชิ้นส่วนของเล่นอุดตันหลอดลมทำให้ขาดอากาศหายใจ
  • ร้อยละ 43 ของการตายกลุ่มนี้เกิดขึ้นจากลูกโป่ง เศษหรือชิ้นส่วนลูกโป่งที่แตกแล้ว
  • เด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี มีความเสี่ยงต่อการสำลักของเล่นสูงกว่าเด็กกลุ่มอายุอื่น

ในสหรัฐอเมริกามีกฎหมายควบคุมของเล่นสำหรับเด็กอายุ 3 ปี หรือต่ำกว่าไม่ให้มีชิ้นส่วนขนาดเล็กที่สามารถสำลักอุดตันหลอดลมได้ สำหรับของเล่นเด็กอายุ 3-6 ปี ที่มีชิ้นส่วนขนาดเล็กต้องแสดงฉลากเตือนห้ามนำเข้าปากอาจเกิดอันตรายจากการสำลักเข้าหลอดลม

10 ของเล่น "เทศกาลปีใหม่" ต้องระวัง สำหรับเด็ก

3. ลูกโป่ง

พฤติกรรมเสี่ยงที่ก่อให้เกิดการอุดตันทางเดินหายใจโดยลูกโป่งนั้นมี 2 แบบ แบบที่หนึ่งคือเด็กเป่าลูกโป่งเอง ในขณะเป่านั้น จังหวะที่เด็กต้องการหายใจเข้าเพื่อเติมลมในปอดนั้นจะต้องดูดอากาศเข้าอย่างแรงโดยมีลูกโป่งจ่ออยู่ที่ริมฝีปาก ทำให้เกิดโอกาสที่ลูกโป่งจะถูกดูดเข้าไปในปากและลงไปในหลอดลมเกิดการอุดตันทางเดินหายใจได้

อีกพฤติกรรมหนึ่งคือการที่เด็กเอาลูกโป่งที่ยังไม่ได้เป่าเข้าปากแล้วอมไว้หรือเคี้ยวเล่น การเผลอของเด็ก การวิ่ง ปีนป่าย หรือหัวเราะ อาจทำให้สำลักลูกโป่งที่อมไว้นั้นเข้าปอดเกิดการอุดตันทางเดินหายใจได้ เศษลูกโป่งที่แตกแล้ว ก่อให้เกิดความเสี่ยงแบบเดียวกันได้ทั้งสองกรณี คือการเอาเศษลูกโป่งมายืดออกไว้ที่ริมฝีปากและเป่า ในจังวหะหายใจเข้า เศษลูกโป่งอาจจะถูกดูดเข้าไปในปากและสำลักลงหลอดลม หรือการเอาเศษลูกดป่งอมเคี้ยวในปาก

การป้องกันอันตรายจากลูกโป่ง ไม่อนุญาตให้เด็กๆอายุน้อยกว่า 8 ปี เล่นลูกโป่งที่ยังไม่เป่า ผู้ใหญ่ต้องเป็นคนเป่าลูกโป่งให้เด็กๆที่อายุน้อยกว่า 8 ปีเท่านั้น สอนและห้ามเด็กมิให้อมลูกโป่งเข้าปากลูกโป่งที่แตกแล้ว ต้องเก็บเศษลูกโป่งให้หมดทันที อย่าให้เด็กเล่นโดยเด็ดขาด

10 ของเล่น "เทศกาลปีใหม่" ต้องระวัง สำหรับเด็ก

4.ของเล่นที่มีถ่านแบตเตอรี่กระดุม

แบตเตอรี่กระดุมที่หลุดออกง่ายเช่นเวลาของเล่น ทำให้เด็กเอาเข้าปากได้ง่าย หากมีแบตเตอรี่ขนาด 2.5 ขึ้นไปจะติดที่หลอดอาหารได้ง่าย ทำให้สารเคมีในถ่านรั่วซึมออกมาเป็นด่างกัดกร่อนหลอดอาหารทะลุได้

10 ของเล่น "เทศกาลปีใหม่" ต้องระวัง สำหรับเด็ก

5.ของเล่นที่เป็นแม่เหล็ก

แบบหลายชิ้นมากกว่า 1 ชิ้นขึ้นไปที่มีขนาดแม่เหล็กไม่ใหญ่สามารถกลืนลงได้ง่าย หากกลืนมากกว่า 1 ชิ้น แม่เหล็กที่อยู่กันคนละตำแหน่งในลำไส้จะดูดกันทำให้หนีบผนังลำไส้ไว้แน่นจนขาดเลือดมาเลี้ยงทำให้ลำไส้ทะลุ หรือ เกิดภาวะลำไส้บิดเกลียวได้

10 ของเล่น "เทศกาลปีใหม่" ต้องระวัง สำหรับเด็ก

6.ของเล่นดูดน้ำพองตัว

บางชนิดสามารถขยายได้ถึง 200 เท่า หากเด็กกลืนเข้าในลำไส้เกิดภาวะลำไส้อุดตันได้ แต่หากสำลักเข้าหลอดลมจะอุดกั้นทางเดินหายใจ ขาดอากาศได้

10 ของเล่น "เทศกาลปีใหม่" ต้องระวัง สำหรับเด็ก

7.ของเล่นชนิดปืนของเล่นชนิดปืนมีหลายประเภท

เช่น ปืนอัดลม ปืนลูกดอก ปืนเหรียญ ปืนลูกบอล เป็นต้น ของเล่นเหล่านี้อาจเป็นอันตรายต่อตาได้ การบาดเจ็บที่ตาเกิดได้จากแรงกระสุนกระแทกที่ลูกตาทำให้เกิด เลือดออกในช่องลูกตาซึ่งต้องรับการรักษาและการหยุดการเคลื่อนไหวในระยะแรกเพื่อป้องกันการมีเลือดออกมากขึ้น ในบางรายอาจก่อให้เกิดต้อกระจกตามมาหลังการกระแทก บางรายกระสุนอาจทะลุเข้าฝังในลูกตาหรือกล้ามเนื้อตา บางรายเกิดการแตกของลูกตาและต้องผ่าตัดควักลูกตาทิ้งไป

ในประเทศพัฒนา ได้มีความพยายามที่จะควบคุมของเล่นอันตรายโดยได้ออกมาตรฐานของเล่นที่เป็นลักษณะปืนที่ใช้ยิงได้ เช่นปืนอัดลม ปืนลูกดอก ปืนลูกบอล เป็นต้น โดยได้กำหนดความแรงไว้ไม่ให้เกินมาตรฐานความปลอดภัยที่จะเป็นของเล่นได้ เช่น

ในประเทศสวีเดนกำหนดไว้ว่าปืนของเล่นที่มีกระสุนชนิดต่างๆจะต้องผ่านมาตรฐาน 2 ข้อคือหนึ่งมาตรฐานยุโรปซึ่งกำหนดไม่ให้กระสุนมีความแรงมากกว่า 0.5 จูล มาตรฐานที่สองคือมาตรฐานออสเตรเลีย ซึ่งเน้นการตรวจสอบพละกำลังการทะลุทะลวง โดยได้ผลิตแผ่นเยื่ออลูมินัม ฟอยล์มาตรฐานขึ้นมา และเมื่อนำของเล่นประเภทยิงมีกระสุนมาตรวจสอบ หากกระสุนสามารถถูกยิงผ่านทะลุแผ่นเยื่อนี้ไปได้ ของเล่นชิ้นนั้นไม่สามารถขายได้

ปืนอัดลม

เป็นปืนพลาสติก มีกระสุนเป็นเม็ดพลาสติกกลมเล็กๆ กระสุนส่วนใหญ่เป็นสีเหลือง สีอื่นก็มีแต่ไม่นิยม ราคาตกกระบอกละ 60-200 บาท แต่ถ้าเป็นปืนที่มีความแรงเพิ่มขึ้นจนเป็นปืนลักษณะที่ใช้เล่นเป็นกีฬาในผู้ใหญ่ ได้แก่ ปืน BB gun ราคาจะสูงเพิ่มขึ้น อันตรายรุนแรงขึ้นมากเช่นเดียวกัน

ปืนอัดลมที่มีขายทั่วไปนี้เป็นอันตรายต่อลูกนัยน์ตาเด็กจำนวนมาก ในประเทศสหรัฐอเมริการายงานว่ามีคนที่บาดเจ็บจากปืนอัดลมประมาณ 30000 รายต่อปี ในจำนวนนี้ร้อยละ 81 เป็นเด็กและวัยรุ่นอายุน้อยกว่า 19 ปี การบาดเจ็บนี้ต้องรับการรักษาในโรงพยาบาลร้อยละ 5 ในจำนวนนี้ร้อยละ 37 เกิดจากการบาดเจ็บที่ลูกนัยน์ตา ในประเทศไทย คาดการณ์ทั่วประเทศน่าจะมีการบาดเจ็บนี้กว่า 9000 รายต่อปี

การป้องกัน

ผู้ดูแลเด็กต้องไม่สนับสนุนให้เด็กเล่นของเล่นที่มีมีลูกกระสุนทุกชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเภทปืนทอัดลมทุกกลุ่มอายุ แม้ว่าเด็กโตจะสามารถเล่นอย่างระมัดระวังตัวเองได้ก็ตาม แต่มักจะเป็นเหตุให้เด็กอื่นในบ้านได้รับบาดเจ็บ โดยเฉพาะเด็กเล็กในบ้าน ชุมชนต้องช่วยกันดูแลอย่าให้มีปืนอัดลมขายในตลาด

และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมมาตรฐานของเล่นได้แก่สำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรม สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต้องตรวจสอบความแรงของปืนอัดลมที่มีในตลาด รวมทั้งปืนของเล่นที่มีกระสุนทุกชนิด เมื่อพบว่ามีความแรงเกินกว่ามาตรฐานควรมีมาตรการควบคุม เรียกเก็บจากตลาด การวางขายทั่วไปควรเป็นสิ่งต้องห้าม

10 ของเล่น "เทศกาลปีใหม่" ต้องระวัง สำหรับเด็ก

8.วัตถุระเบิด..พลุ ดอกไม้ไฟ

มักทำให้เกิดการบาดเจ็บที่มือ สูญเสียนิ้วมือ บาดเจ็บที่ตา ทำให้ตาบอด บาดเจ็บที่ใบหน้าทำให้เกิดแผลเป็น หรือไฟไหม้ทั้งตัวทำให้สูญเสียชีวิตได้ สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้วิเคราะห์ข้อมูลจาก 28 โรงพยาบาลเครือข่ายในระบบเฝ้าระวังการบาดเจ็บระดับชาติ พบว่า

  • มีผู้บาดเจ็บรุนแรงจากการถูกเปลว สะเก็ดดอกไม้ไฟ หรือพลุ จำนวน 502 คน ตาย 9 คน
  • ร้อยละ 44.3 ของผู้บาดเจ็บรุนแรงทั้งหมด เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี
  • ร้อยละ 92.4 ของผู้บาดเจ็บเป็นเพศชาย
  • เวลาที่เกิดเหตุสูงสุดคือ เวลา 16.00 – 19.59 น. โดยเกิดเหตุเป็นสัดส่วนร้อยละ 32.6
  • เป็นการบาดเจ็บที่มือและข้อมือมากที่สุดร้อยละ44.4
  • ในจำนวนนี้มีกระดูกนิ้วมือแตกหรือหัก ร้อยละ 25.0
  • รองลงมาคือ บาดเจ็บที่ศีรษะและใบหน้า ร้อยละ14.3
  • ในจำนวนนี้ ส่วนใหญ่มีการบาดเจ็บที่ตาและรอบ ๆ ดวงตาร่วมด้วย (ร้อยละ 44.4)
  • ร้อยละ 28.6 มีแผลไหม้ตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย จากความร้อนของเปลวไฟ และสะเก็ดดอกไม้ไฟ หรือพลุ
10 ของเล่น "เทศกาลปีใหม่" ต้องระวัง สำหรับเด็ก

การป้องกัน

  • อย่าให้เด็กเล่นพลุและดอกไม้ไฟเป็นอันขาด ไม่ว่าจะเป็นชนิดใดก็ตาม
  • อย่าให้ใบหน้าของผู้เล่นอยู่เหนือพลุและดอกไม้ไฟ เพราะอาจระเบิดหรือพุ่งเข้าสู่ใบหน้าผู้เล่นได้ตลอดเวลา
  • อย่าอยู่ใกล้ผู้ดื่มสิ่งมึนเมาและเล่นพลุและดอกไม้ไฟ เพราะจะเป็นเหตุสำคัญในการขาดความระมัดระวังและเกิดอันตรายแก่ผู้เล่นและผู้อยู่ใกล้
  • ในกรณีที่พลุและดอกไม้ไฟจุดแล้วไม่ทำงานหรือทำงานครึ่งๆกลางๆแล้วดับไป อย่า!.. จุดไฟใหม่เพราะอาจระเบิดและมักเป็นเหตุให้เกิดการบาดเจ็บอยู่เสมอ
  • ควรมีถังน้ำใกล้ตัวหรืออยู่ใกล้แหล่งน้ำ ในกรณีที่พลุและดอกไม้ไฟทำงานผิดพลาดหรือติดไฟ ให้โยนใส่แหล่งน้ำ
  • ก่อนจุดพลุและดอกไม้ไฟ ดูรอบข้างให้ดี ต้องมั่นใจว่าไม่มีผู้ใดรอบข้างจะบาดเจ็บได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็ก

9.ของเล่นที่มีสารเคมีเป็นพิษ

มี slime ที่ใช้กาวเป็นพิษต่อระบบทางเดินหายใจ ทาเลทที่ทำให้พลาสติกอ่ออนิ่มทำให้อรบกวนต่อมไร้ท่อมีผลต่อฮอร์โมนร่างกาย สารตะกั่วในสีเคลือบสีพ่นมีผลต่อสมองและเม็ดเลือดแดง

10 ของเล่น "เทศกาลปีใหม่" ต้องระวัง สำหรับเด็ก

10.ของเล่นในน้ำ

อุปกรณ์ช่วยลอยตัวทั้งหลายที่มีคำเตือนว่าไม่ป้องกันการจมน้ำ เช่น ห่วงยางเป่าลมทั้งหลาย ที่มักทำให้พ่อแม่เข้าใจผิดว่า สามารถปล่อยลูกตามลำพังในน้ำได้เพราะเป็นอุปกรณ์ช่วยชีวิต

ซึ่งเป็นความเข้าใจผิดของเล่นที่ผู้ดูแลเข้าใจผิดว่าเป็นของเล่น แต่แท้จริงไม่ใช่ของเล่นยังมีอีกมาก เช่น สื่อการสอน ของแถมต่างๆ โทรศัพท์มือถือ สิ่งของเหล่านี้ไม่ได้ถูกทดสอบมาเป็นของเล่น ไม่มีมาตรการตรวจสอบรับรองเป็นมาตรฐานของเล่น การนำมาให้เด็กเล่นพ่อแม่ต้องเรียนรู้โทษที่อาจจะเกิดขึ้น และปกป้องตนเองให้มาก เพราะไม่มีหน่วยงานช่วยดูแลเหมือนของเล่นที่ถูกนิยามตามกฎหมาย

10 ของเล่น "เทศกาลปีใหม่" ต้องระวัง สำหรับเด็ก

‘ของเล่น’ ไม่ได้เป็นแค่เรื่องเด็กเล่น

ทำความรู้จักนักออกแบบของเล่น กิมเล้ง—กัญญา อดิศรพันธ์กุล ที่ไม่ได้มาเล่นๆ เพราะผลงานของเล่น Hand Sign Alphabet ของเธอ เคยคว้ารางวัล Twenty Favorite Toys 2014 จากนิตยสาร Family Fun ในประเทศสหรัฐอเมริกามาแล้ว

ขอทำความรู้จักนักออกแบบของเล่นที่ชื่อ ‘กิมเล้ง’ กันก่อน

เราจบสถาปัตย์ฯ สาขาศิลปะอุตสาหกรรมมาค่ะ ซึ่งตอนนั้นในไทยยังไม่มีแยกเป็นสาขาเกี่ยวกับของเล่นโดยตรง แต่จะเป็นวิชาในชั้นปีสองปีสาม แล้วเราก็มีหลานกับน้องเยอะ มีน้องชายที่อายุห่างกัน 12 ปี ตอนเราปีหนึ่ง น้องก็เริ่มอยู่ในวัยที่อยากเล่นของเล่นพอดี ก็เลยชอบทำของเล่นให้น้อง ครีเอตบอร์ดเกมเล่นกับน้อง พอได้มาเรียนวิชาเกี่ยวกับการทำของเล่นตอนปีสองปีสามก็ชอบ แต่ตอนนั้นคะแนนไม่ดีเลย เพราะเราไม่ได้คิดว่าเด็กอยากจะเล่นอะไร แต่ทำโดยคิดว่าตัวเราอยากจะทำอะไร

แล้วสนใจการออกแบบของเล่นเด็กมากขึ้นตอนไหน

ตอนปีสี่ต้องฝึกงาน ก็หาที่ฝึกงานในและนอกประเทศ จนมีโอกาสได้ฝึกงานที่สตูดิโอออกแบบของทุกอย่างสำหรับเด็กที่ฝรั่งเศส ที่นั่นเขาทำงานภายใต้คอนเซ็ปต์ Emotional Factory ออกแบบตั้งแต่ความงาม ไปจนถึงการมีพัฒนาการและพัฒนาทางอารมณ์ของเด็ก เราก็… โห! เปิดโลกทัศน์

ที่ยุโรปเขาให้ความสำคัญกับของเล่นมากแค่ไหน

มากๆๆๆๆ เลยนะ อย่างปารีสตามริมถนน เขาจะมีร้านของเล่นเต็มไปหมด แต่ละร้านมีเสน่ห์เพราะเจ้าของร้านเขาอินกับร้านของเขามาก หรือแม้แต่ตอนที่เราไป Toys Fair (งานของเล่นประจำปีของโลก) ก็มีฮอลที่เป็นของเล่นแฮนด์เมด คือของเล่นที่มีมาตั้งแต่รุ่นทวดของทวด อีกฮอลก็จะมีการแลกเปลี่ยนความรู้เรื่องเทคโนโลยี ถ้าเดินไปโซนไอทีก็เหมือนไปงานวิทยาศาสตร์หุ่นยนตร์เลย เขาเจ๋งกันมาก เพราะเขาให้ความสำคัญกับมันมาก

เรียกว่าพวกเขาจริงจังกับการเล่นมากใช่ไหม

ใช่ ของเล่นมันมีความเกี่ยวเนื่องถึงวัฒนธรรม ภูมิประเทศ ประวัติศาสตร์ ประเทศที่มีพื้นที่มาก ของเล่นก็จะชิ้นใหญ่ เช่น บ้านไม้หลังใหญ่ๆ แต่ถ้าพื้นที่ในประเทศน้อย ของเล่นก็ชิ้นเล็ก อย่าง Polly Pocket (ของเล่นเป็นกล่องเล็กๆ จำลองห้องหรือเหตุการณ์ต่างๆ ลงในนั้น พร้อมตัวละครจิ๋วๆ สูงไม่กี่เซนติเมตร)

ADVERTISEMENT

เพราะฉะนั้น การเล่นคือหนทางที่ดีในการเรียนรู้ มันช่วยพัฒนาทั้งเชิงร่างกาย อารมณ์ การคิด ทักษะกระบวนการต่างๆ ในการใช้ชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นเด็กเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคต หรือเป็นผู้ใหญ่เพื่อขัดเกลาและพัฒนาตัวเองในปัจจุบัน หรือว่าเป็นคนแก่เพื่อซ่อมแซมความคิดและสมอง การเล่นก็ช่วยได้เหมือนกัน

ไม่ว่าคุณจะเป็นเด็กเพื่อเตรียมความพร้อมไปสู่อนาคต
หรือคุณเป็นผู้ใหญ่แล้วเพื่อขัดเกลาและพัฒนาคุณในปัจจุบัน
หรือว่าคุณเป็นคนแก่เพื่อที่จะซ่อมแซมความคิดและสมองของคุณ
การเล่นก็ช่วยได้หมดเลยเหมือนกัน

จากความตื่นตาตื่นใจ นำมาสู่การเข้ามาทำงานในสายงานนี้ได้ยังไง

เป็นความโชคดีที่เจ้าของสตูดิโอที่เราไปฝึกงาน เขารับโปรเจ็กต์จาก Plan Toys ซึ่งขายดีมากในยุโรปไป คุณวิฑูรย์ วิระพรสวรรค์ เจ้าของ Plan Toys ก็เคยเจอเราตอนไปฝึกงานที่นั่น แล้วบังเอิญได้เจอกันอีกครั้งหลังจากเราที่เรากลับเมืองไทยแล้ว เขาก็ชวนมาทำงาน ตอนนั้นดีใจมาก เพราะเพิ่งส่งทีซิสเมื่อวาน วันนี้มีคนชวนไปทำงานแล้ว รู้สึกฮอตมาก เลยรีบทำพอร์ตฯ ส่งทันทีคืนนั้นเลย

จากตรงนี้ ทำให้เราคิดว่าพรสวรรค์มันไม่เท่าพรแสวง ถ้าจะทำอะไรให้สำเร็จจริงๆ มันต้องมีพรแสวงมากๆ

แพสชั่นในการออกแบบของเล่น

เราอยากทำอะไรเพื่อสังคม เพราะตอนนั้นจบมาด้วยทีซิสหัวข้อธุรกิจเพื่อสังคม คือออกแบบรถเข็นเด็ก (ตั้งแต่แรกเกิดถึงวัยอนุบาล) สำหรับคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่เป็นแม่ค้าตามถนน เพื่อแก้ปัญหาแม่ที่ต้องเอาลูกไปฝากญาติเลี้ยง แต่จะให้มานั่งอยู่ข้างถนน สภาพแวดล้อมก็ไม่ปลอดภัย เราอินกับโปรเจ็กต์นี้มาก

ตอนทำของเล่นก็เลยคิดไปถึงของเล่นเพื่อเด็กพิเศษ พอทำออกมาได้สามชิ้นแล้วได้รางวัล เราก็เลยยิ่งอินกับการทำของเล่น เพราะที่นี่สอนเราว่าโลกของการออกแบบของเล่นมันลึกกว่านั้นมาก มันไม่ใช่แค่การเล่น แต่มันหมายถึงพัฒนาการของเด็ก การเข้าสังคม และการพัฒนาจิตใจของเด็ก เราก็ยิ่งอินว่าของเล่นมันต่อยอดไปได้ไกลมากนะ

แต่ทำไปได้สามปีกว่า เราก็เปลี่ยนสายงานไปทำอย่างอื่น

โลกของการออกแบบของเล่น มันลงไปลึกกว่านั้นมาก
มันไม่ใช่แค่การเล่น แต่หมายถึงพัฒนาการ
การเข้าสังคม การพัฒนาจิตใจของเด็ก

เพราะว่า…?

จริงๆ ตอนนั้นที่ตัดสินใจก็ร้องไห้หนักมาก เพราะสองปีแรกบริษัทจะเห่อเรามาก เพราะเราได้รับการยอมรับมาง่ายๆ เคยทำงานได้รางวัล เราก็ภูมิใจ แต่พอเข้าปีที่สาม ต้องกลับมาสู่ความเป็นจริง ความคาดหวังที่มากขึ้น ต้องทำเองทุกอย่าง ตั้งแต่ดีลกับวิศวกรไปจนถึงหาวัสดุ เพื่อผลักโปรเจ็กต์ตัวเองให้ออกมาให้ได้

ด้วยความเคยเป็นเด็กเราเคยออกงานใหม่ทุกปี แต่ปีนั้นกลับไม่มีงานใหม่ออก เราก็ยิ่งเฟล โทษคนอื่นไปหมดว่าที่ทำงานไม่ได้เพราะไม่มีใครให้ความร่วมมือ ซึ่งจริงๆ มันเป็นเรื่องปกตินะ เพราะงานปัจจุบันที่ทำอยู่ก็สองปีแล้ว ยังไม่ได้ออกเลย

ตอนนั้นเราตัดสินใจย้ายงานเลย หันหลังให้งานออกแบบของเล่นไปเลยหนึ่งปีเต็ม

แล้วทำไมถึงกลับมาอีกครั้ง

สุดท้ายแล้วใจลึกๆ มันอยู่ไม่ได้ มันเหมือนจะลงแดง ทั้งที่จริงตอนย้ายงานไป เราได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ และได้เรียนรู้ในเชิงกว้างมากเลยนะ แต่พอลองถามตัวเองว่า ถ้าเราขึ้นไปถึงตำแหน่งสูงสุดของที่นี่ได้แล้ว เราอยากมีชีวิต ใช้ชีวิตแบบนั้นไหม… เราไม่อยาก ก็อดทนจนครบปีแล้วลาออก ทั้งที่ทุกอย่างที่บริษัทนั้นมันดีมาก

เล่าวิธีการทำงานออกแบบของเล่นแต่ละชิ้นให้ฟังหน่อย

ก็ยังต้องใช้คู่มืออยู่ เพราะเราไม่ได้จำได้ทุกอย่าง ทั้งคู่มือพัฒนาการเด็กแต่ละช่วงวัย คู่มือความปลอดภัยต่างๆ มันเป็นเรื่องซีเรียสนะ ยังต้องใช้ฟิสิกส์ ตัวเลข และศิลปะทั้งหมด แม้แต่ขนาดชิ้นของเล่น ถ้ามีช่องมีรู เส้นผ่านศูนย์กลางก็ต้องเล็กกว่าที่นิ้วเด็กจะสอดเข้าไปได้ หรือถ้าจะใหญ่ก็ต้องใหญ่แบบที่แหย่เข้าไปและเอาออกได้สบาย หรือของเล่นที่เป็นบานพับก็ต้องลองเปิดปิดแรงๆ ว่าจะไม่หนีบเด็กแล้วเจ็บแน่นอน เพราะฉะนั้นของเล่นทุกชิ้นต้องผ่านการทดสอบก่อนเสมอด้วย

ถ้าเอาของเล่นไปทดสอบแล้วเด็กไม่ได้เล่นด้วยวิธีที่เราคิดไว้

ถ้าเด็กยังไม่ถึง 4-5 ขวบ มันตลอดเวลาเลยที่น้องจะเอาไปเล่นอย่างอื่น อย่าหวังว่าเขาจะเล่นในแบบที่เราจะให้เขาเล่น แต่หลังจาก 4-5 ขวบขึ้นไป น้องอาจจงใจที่จะลองเล่นแบบอื่นดูบ้าง

เช่นยังไงบ้าง

เช่นเรามีของเล่นเป็นบ้านชิ้นเล็กๆ เอามาต่อกันได้ ตอนเอาโมเดลไป เด็กเล็กๆ ทุกคนจะพยายามขึ้นไปนั่งบนบ้าน หรืออย่างเก้าอี้อันเล็กๆ (หนึ่งในสามของฝ่ามือ) เขาก็จะพยายามขึ้นไปนั่ง โอ๊ย (หัวเราะ) เราก็แบบ… จะสงสารอะไรก่อนดี เพราะเขายังแยกไม่ออกว่าเป็นของเล่นหรือของจริง ซึ่งมันคือ Brain Based Learning เขาถึงเรียกว่า ‘จินตนาการของเด็ก’

แต่ความหลากหลายของเด็กมีมากจนเราเดาไม่ถูก เช่น ของเล่นเป็นเตารีดพลาสติก คนนึงอาจจะวี้ดว้าย ไม่กล้าเอามือแตะ ขณะที่อีกคนวัยเดียวกันเป็นเพื่อนกัน เขายกเตารีดขึ้นมาแนบหูพูดฮัลโหล เราคาดเดาไม่ได้เลย

สิ่งเหล่านี้จุดประกายไอเดียอะไรได้บ้าง

มากค่ะ เช่น เตารีดพลาสติกเหมือนเดิมนะ เด็กทั่วไปก็จะเอามารีดธรรมดา แต่พอเราเห็นว่าเด็กบางคนเขาจะเอามาตีกับพื้น เราก็สามารถเพิ่มฟังก์ชันบีบแล้วมีเสียงปิ๊บๆ เข้าไปได้ พอเขาเอาเตารีดตีลงกับพื้น มันก็จะมีเสียง

แล้วถ้าสุดท้าย เด็กยังเล่นไม่เป็นหรือไม่ถูกวัตถุประสงค์เรา

เราก็ต้องไปปรับ มีสองวิธีคือ ทำให้ง่ายขึ้น หรือหาวิธีช่วยให้เด็กเข้าใจง่ายขึ้น

ในความรู้สึกของ ‘คนทำของเล่น’ หน้าที่ของ ‘ของเล่น’ คืออะไร

มันไม่ใช่แค่การเล่น แต่มันคือตัวจุดประกายความฝันบางอย่างให้เด็กคนนั้นได้เลย และมันไม่ใช่แค่กับเด็ก เพราะในเชิงวิชาการ ของเล่นยังทำให้เรารับรู้ได้ถึงความสำเร็จในเวลาสั้นๆ เช่น การต่อจิ๊กซอว์แล้วเรารับรู้ได้ถึงความสำเร็จหลังต่อเสร็จ มันเป็นการทำงานเชิงจิตวิทยา มันทั้งช่วยผ่อนคลาย ส่งเสริมจิตใจ ร่างกาย สมอง ทำให้คนมีความเชื่อมั่นและความกล้าที่จะใช้ชีวิตต่อไป แม้กระทั่งความกล้าหลายๆ อย่างของเด็ก ก็ต่อเนื่องมาจากการที่เขาเคยทำมันสำเร็จมาก่อนตอนที่มันเป็นของเล่น

ทุกวันนี้ตัวเองยังเล่นของเล่นอยู่ไหม

โอ๊ยยย แน่นอนสิคะ บางทีเราเดินผ่านสวนสาธารณะยังเข้าไปนั่งเล่นชิงช้าเลย เพื่อนไปเดิน Sephora เราไป Toy R Us

ที่เห็นว่าบ้านไม่มีของเล่นเยอะเนี่ย เพราะมันแพง แต่เราก็เข้าไปเดินโซนของเล่นในห้างทุกอาทิตย์ ไปเล่นนะ ไปเล่นจริงๆ พวกรถแข่งทามิยะ ตุ๊กตาบาร์บี้ แต่เราเล่นแบบไม่ได้คิดถึงฟังก์ชันการทำงานของมันนะ เราเล่นเพื่อเติมเต็มตัวเราเอง เอามัน เอาสนุกเฉยๆ

นอกจากร้านของเล่นแล้ว หาแรงบันดาลใจได้จากที่ไหนอีกบ้าง

ห้องสมุดก็ได้ อ่านหนังสือ ยิ่งเยอะยิ่งดี คือบางอย่างมันก็มาง่าย บางอย่างก็มายากมาก แต่ที่แน่ๆ คือเราต้องรู้ให้เยอะ ต้องดูให้เยอะ ต้องเห็นให้เยอะแล้วตกตะกอน วิเคราะห์ให้ได้ ต้องเป็นคนช่างสังเกต อย่างไปเห็นเด็กขุดทรายแล้วกลบ ก็ต้องนั่งดูว่าเขาทำเพราะอะไร เพราะเด็กชอบเห็นของหายไปแล้วก็โผล่ออกมา พอมาคิดของเล่นชิ้นใหม่เราก็ใส่ฟังก์ชันผลุบๆ โผล่ๆ เข้าไป

แล้วทำไมของเล่นที่เด็กอยากได้กับของเล่นที่คุณพ่อคุณแม่เลือกมักไม่ใช่ชิ้นเดียวกัน…

เด็กเลือกไม่ดูราคาไง (หัวเราะ) อันนี้เป็นเหตุผลที่สำคัญเลยนะคะ (หัวเราะ) โดยปัจจัยพื้นฐานแล้วไม่ซับซ้อนเลยค่ะ

แล้วปัจจัยที่ลึกกว่านั้นคืออะไร

(หัวเราะ) เด็กเขาจะเลือกแค่ที่เขาอยากจะเล่น หรือไปเห็นคนอื่นเล่นมา แล้วเขาอยากจะเล่นตาม แต่คนเป็นพ่อเป็นแม่จะคิดเยอะ ต้องได้ประโยชน์ ปลอดภัย คุ้มค่า คุ้มราคาไหม ลดราคาอยู่หรือเปล่า หรือบางครั้งผู้ใหญ่ก็ซื้อไปอวดกันเอง ลูกไม่ได้อยากเล่น (ยิ้ม)

พอถึงวัยนึงเราอาจจะโดนบอกว่า ‘โตแล้ว เลิกเล่นของเล่นได้แล้ว’ คิดแบบนั้นไหม หรือมันมีช่วงวัยแบบนั้นจริงไหม

ถ้าจะมี มันไม่ควรเป็นคำสั่ง แต่ควรเป็นการสอนให้รู้จักบริหารเวลามากกว่า และมันไม่ใช่แค่ของเล่นนะ เพราะการบอกให้เลิกเล่นเนี่ยก็ใจร้ายไปหน่อย

ถ้ามองให้กว้างๆ การเล่นมันมีประโยชน์มหาศาลซ่อนอยู่ แต่เราต้องสอนให้เขาเล่นอย่างมีสติ เล่นแล้วคิดต่อยอดได้ คนเป็นพ่อแม่ต้องสอนกระบวนการคิดต่อยอดจากการเล่นให้กับลูก แล้วเขาจะเอาทักษะเหล่านี้ไปเติบโตพัฒนา

มองทิศทางการพัฒนาของเล่นเด็กไทยไปถึงจุดไหน อย่างไร

จริงๆ เราก็หวั่นๆ กับเก้าอี้ตัวเองนะ (หัวเราะ) เพราะเด็กรุ่นใหม่ที่เรียนออกแบบของเล่นมาเก่งๆ เต็มไปหมดเลย และมันก็ได้รับการยอมรับและพัฒนามากขึ้น พ่อแม่สมัยนี้ก็เข้าใจและให้ความสำคัญกับของเล่นด้วย พวกเขาเริ่มเข้าใจว่าการเล่นนั้นมีสาระ ของเล่นในประเทศเรากำลังพัฒนาค่ะ (ยิ้ม)

ถ้าของเล่นเด็กมีการพัฒนาไปเรื่อยๆ ทั้งเรื่องคุณภาพและต้นทุนการผลิต แล้วเกิดความเหลื่อมล้ำกับเด็กที่ไม่พร้อม หรือครอบครัวขาดทุนทรัพย์ที่จะซื้อของเล่นราคาแพง…

ณ ตอนนี้ ปัญหาที่เจอจะมีปัญหาอยู่สามอย่าง หนึ่ง—คุณภาพ เช่น สี วัสดุที่ใช้ การตกค้างของสารเคมี ความแข็งแรงคงทน คือสิ่งที่ต้องเลือกดีๆ สอง—สิ่งที่เด็กจะได้เรียนรู้ ของเล่นบางอย่างเนื้อเรื่องของมันอาจสร้างความรุนแรงได้ สาม—ตัวพ่อแม่หรือคนใกล้ชิดเด็กสำคัญที่สุด ว่าเขาจะสอนให้น้องถือดาบไปตีคน หรือสอนให้เอาดาบไปฝึกวิทยายุทธปกป้องคนที่เขารัก เพราะต่อให้ของเล่นไม่มีคุณภาพ แต่ถ้าพ่อแม่ใส่ใจและดูแลใกล้ชิด มันก็ปลอดภัย หรือของเล่นที่ไม่มีอะไรให้เรียนรู้ แต่ถ้าพ่อแม่รู้จักพลิกแพลงการเล่น ก็ช่วยพัฒนาลูกได้

ไม่ต้องไปน้อยใจถ้าไม่มีของเล่นดีๆ ให้ลูก เพราะตัวพ่อแม่นี่แหละที่สำคัญ ของเล่นแพงมากๆ แต่พ่อแม่ไม่มีเวลาเล่นด้วย น้องก็ไม่แฮปปี้ค่ะ เทียบกับของเล่นหม้อข้าวหม้อแกงดินเผานี่เลย ถ้าพ่อแม่รู้ว่าจะสอนยังไง เอาไข่มาทำอาหารได้จริงๆ ก็ได้เรียนรู้ว่าความร้อนทำให้ไข่สุก การอดทนรอไข่ให้ค่อยๆ สุก ทุกอย่างจึงอยู่ที่เวลาของพ่อแม่ ถ้าพ่อแม่ตั้งใจสอน รวมกับของเล่นที่ดีด้วยล่ะก็บรรเจิดค่ะ!

5 ประเภทของเล่น เลือกให้ถูก เล่นได้นาน ไม่เปลืองเงินซื้อบ่อย ๆ

ของเล่นเด็ก- ของเล่นเสริมพัฒนาการ-ของเล่นกระตุ้นพัฒนาการ- ของใช้เด็ก- ให้ลูกเล่นอะไรดี- ซื้อของเล่นอะไรให้ลูกดี- ลูกควรเล่นอะไร- ซื้อของเล่นที่ไหนดี- ของเล่นราคาถูก-ของเล่นดีๆ- ของเล่นที่ลูกเล่นได้นาน-ร้านของเล่น-ขายของเล่น-สินค้าเด็ก-ซื้อของเล่นให้ลูก-การเลือกของเล่นเด็ก-ของเล่นอันตราย- ของเล่น- ประโยชน์ของเล่น-การเลือกของเล่น- เด็กอนุบาล- สุขภาพเด็ก-พฤติกรรมเด็ก-กิจกรรมสำหรับเด็ก- กิจกรรมพัฒนาสมอง-ของเล่นเด็กมีอะไรบ้าง

“ของเล่น” เป็นสื่อที่ช่วยกระตุ้นพัฒนาการของเด็ก ช่วยทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ และช่วยเรื่งความสนุกสนานอีกด้วย แต่อย่าเพิ่งซื้อของเล่นเด็กให้ลูก

ถ้าพ่อแม่ยังไม่รู้ว่าของเล่นเด็กมีกี่แบบและแบบไหนเหมาะกับลูกเรา นี่คือ 5 ประเภทของเล่นเด็กเสริมพัฒนาการที่พ่อแม่ต้องรู้ เลือกได้ถูก เล่นได้นาน ไม่เปลืองเงินซื้อของเล่นบ่อยๆ

ประเภทของของเล่นเด็ก  
  1. ของเล่นที่ให้เด็กได้ออกแรง (Active play) ประเภทกีฬา เช่น ลูกบอล จักรยานสามล้อ อุปกรณ์ยิมนาสติก ประโยชน์คือ เสริมสร้างร่างกายและกล้ามเนื้อให้แข็งแรง อาจจะรวมถึงอุปกรณ์กีฬา เช่น ไม้แบตมินตันสำหรับเด็ก  
  2. ของเล่นที่เด็กต้องสร้างขึ้นและควบคุมการเล่นเอง (Manipulative play) เด็ก ๆ สามารถต่อ หรือประกอบให้เป็นรูปร่างได้ เช่น เลโก้ ไม้บล็อก จิ๊กซอว์ หรือโมเดลชุดหุ่นยนต์ ประโยชน์คือ ฝึกกล้ามเนื้อมือ และช่วยฝึกทักษะทางด้านคณิตศาสตร์ อย่างการก่อทรายหรือการต่อไม้บล็อก เด็กจะต้องคำนวณให้ฐานใหญ่เพื่อที่ยอดด้านบนจะไม่ล้ม  
  3. ของเล่นที่เลียนแบบของจริง (Make-Belive play) เช่น ชุดจำลองอุปกรณ์ทำครัว ชุดเครื่องมือหมอ และชุดแต่งตัวตุ๊กตาบาร์บี้ เป็นต้น ประโยชน์คือ ฝึกทักษะให้เด็กได้ใช้ของเหมือนจริงเพื่อเติมเต็มจินตนาการ เอื้อให้การเล่นบทบาทสมมติของเด็กสมบูรณ์แบบขึ้น   ของเล่นส่งเสริมจินตนาการ (Creative play) คือ ของเล่นประเภท สีน้ำ สีไม้ แป้งโด ดินน้ำมัน หรือเครื่องดนตรี ประโยชน์คือ ส่งเสริมจินตนาการของเด็กให้บรรเจิด  
  4. ของเล่นเพื่อการเรียนรู้ (Learning play) คือ ของเล่นเพื่อการพัฒนาทักษะ เช่น นิทาน หรือเกม ประโยชน์คือ ตอบสนองการเรียนรู้ที่ไม่หยุดยั้งของเด็กวัยคิดส์ คุณพ่อคุณแม่อาจจะต้องเล่นด้วยเพื่อให้ของเล่นนั้นสัมฤทธิ์ผลและไม่ควรเลือกของเล่นที่ยากเกินกว่าเขาจะเข้าใจนะคะ อาจจะเริ่มต้นด้วยเกมเศรษฐี หรือเกมบันไดงู
วิธีซื้อของเล่นเด็กให้คุ้มทั้งเงินและประโยชน์กับลูก

เหมาะกับวัยเจ้าตัวเล็ก โดยดูจากสัญลักษณ์ที่ระบุไว้ข้างกล่อง  

  • มาตรฐานการันตี สังเกตเครื่องหมาย มอก. (มาตรฐานโรงงานอุตสาหกรรม) เป็นเครื่องหมายที่ใช้ในประเทศไทย  
  • แข็งแรงทนทาน ไม่ประกอบไปด้วยชิ้นส่วนหรือวัสดุที่แตกง่าย ตัวกล่องบรรจุของเล่นต้องแข็งแรงและทนทาน เพื่อสามารถป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นกับของเล่น  
  • วัสดุที่นำมาประกอบต้องไม่เป็นชิ้นเล็ก ๆ ที่หลุดออกง่าย
  • ของเล่นอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหลาย ต้องไม่เกิดความร้อนมากเกินไป ไม่เสี่ยงต่อการเกิดไฟฟ้าดูด ไม่ใช้ไฟเกินกว่า 24 โวลต์
  • หลีกเลี่ยงของเล่นที่ต้องใช้ความรุนแรงหรือมีเสียงดังเกิน 85 เดซิเบลในการเล่น เช่น ปืน หรือประทัดที่อันตรายและก่อเสียงดังทำลายหู
  • สีและพลาสติกที่ใช้ต้องไม่มีส่วนผสมของสารตะกั่ว ปรอท โครเมียม สารหนู พลวง แบเรียม แคดเมียม หรือมีในปริมาณที่มอก.วางมาตรฐานไว้  
  • คำอธิบายชัดเจนบนกล่องของเล่น ระบุถึงส่วนประกอบและวัสดุที่ใช้ทำของเล่น รวมไปถึงโรงงานที่ผลิต ถ้าเป็นของเล่นนำเข้า ต้องมีบริษัทหรือโรงงานที่นำเข้าของเล่น และมีคำอธิบายการเล่นอย่างละเอียดด้วย เพื่อป้องกันการเข้าใจผิดและใช้งานผิดวัตถุประสงค์นั่นเอง   
  • ถ้าเป็นของเล่นที่เลียนแบบเครื่องป้องกันตัว เช่น หมวกกันน็อก หรือแว่นตาที่เลียนแบบนักวิทยาศาสตร์ จะต้องมีข้อความเตือนเหล่านี้ “ไม่สามารถใช้ป้องกันอันตรายได้เหมือนของจริง” “ไม่สามารถใช้ป้องกันแสงอุลตร้าไวโอเลตได้” “อย่าวางใกล้วัตถุไวไฟหรือใกล้ความร้อน” “อย่ายิงใกล้ตาหรือหู”
ของเล่นที่ไม่ควรให้ลูกเล่นก็มีนะ

ลูกปัด ลูกแก้ว เมล็ดพืช และของเล่นชิ้นเล็กๆ ด้วยสีสันและขนาด เจ้าตัวเล็กอาจจะเผลอไผลนำเข้าปากได้ง่าย ลูกโป่ง ถ้าเกิดแตกขึ้นมาเจ้าตัวเล็กอาจจะเจ็บตัวจากแรงแตกของลูกโป่ง ของเล่นที่มีสายยาว เพราะถึงแม้กล้ามเนื้อมือกล้ามเนื้อแขนจะพัฒนาไปมากแล้ว แต่ถ้าเชือกเกิดพันคอหรือแขนขึ้นมา เขาไม่สามารถที่จะคลายปมเชือกได้เอง ปืนอัดลม ปืนลูกดอก ธนู ด้วยแรงอัดเมื่อโดนตาจะทำให้เลือดออกในช่องลูกตา ทำให้ตาบอดได้ค่ะ และอาจส่งผลถึงพฤติกรรมคือทำให้เขาซึมซับพฤติกรรมก้าวร้าวจากของเล่นที่ใช้ความรุนแรงด้วย

กันดั้ม หนึ่งในของเล่น ที่นักสะสมไปญี่ปุ่น จะไม่พลาดจะซื้อ

 Gundam หรือที่เราเรียกกันว่า กันดั้ม มีต้นกำเนิดมีจากประเทศญี่ปุ่น เป็นซีรีส์แอนิเมชั่นญี่ปุ่นเกี่ยวกับหุ่นยนต์ต่อสู้ขนาดยักษ์ สร้างโดยบริษัทซันไรส์ Sunrise (company) กันดั้มนับเป็นอนิเมะซีรีส์แรกซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มการ์ตูนหุ่นยนต์แนวเรียลโรบ็อท มีการสร้างภาคต่อและภาคใหม่มาจนถึงปัจจุบัน เริ่มฉายครั้งแรก เมื่อวันที่ 7 เมษายน 1979 ในชื่อ Mobile Suit Gundam และได้ฉายภาคต่างๆออกมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน

           Mobile Suit Gundam ถูกสร้างโดย อาจารย์ โยชิยูกิ โธมิโนะ (Yoshiyuki Tomino) ช่วงแรกชื่อ แรกของซีรี่ย์หุ่นยนต์รบนี้มีชื่อว่า Freedom Fighter Gunboy หรือ เรียกย่อๆว่า Gunboy เนื่องจาก ต้องการเจาะกลุ่มตลาดเด็กผู้ชาย แต่หลังจากนั้นไม่นาน ได้มีการเปลี่ยนชื่อใหม่ เป็น Gundam เพื่อเพิ่มความเป็นสากลให้มากขึ้น โดยยยังคงใช้ คำว่า Gun เหมือนเดิม และเปลี่ยน boy มาเป็น dam ที่มาจากการเลียนแบบเสียงของระบบไฮโดรลิค

หุ่นยนต์ของเล่น Iron Man รุ่น MK50 Robot

UBTECH หุ่นยนต์ของเล่น Iron Man รุ่น MK50 Robot ให้คุณได้เล่นเป็น Tony Stark และสวมใส่ชุดเกราะ MK50 ที่เป็นสัญลักษณ์ เพื่อเล่นผ่านการทดสอบสนามอาวุธนาโนเทคและการต่อสู้ที่ออกแบบโดย FRIDAY, การเดิน, การพูดคุย ของ Iron Man Robot ครั้งนี้เป็นประตูสู่เหตุการณ์หลังจาก Marvel’s Avengers: Infinity War, เริ่มต้นด้วยการดาวน์โหลดแอพฟรีสำหรับ iOS หรือ Android เพื่อเริ่มการผจญภัยด้วยภารกิจ เพิ่มความเป็นจริง ซึ่งผู้ใช้สามารถต่อสู้กับโดรนที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Marvel Cinematic Universe 

ด้วยสุดยอดพลังของเกราะไอรอนแมนมาอยู่ในมือคุณ Iron Man MK50 หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์รุ่นแรกที่ได้รับแรงบันดาลใจจากจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล ผสานวิทยาการหุ่นยนต์ขั้นสูงกับเทคโนโลยี AR ให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์ซูเปอร์ฮีโร่ด้วยตัวคุณเอง

หุ่นยนต์ของเล่น Iron Man รุ่น MK50 Robot

หุ่นยนต์ Iron Man MK50 จาก UBTECH คือฮีโร่ที่แข็งแกร่งที่สุดในจักรวาลมาร์เวล ความมหัศจรรย์คือแฟนมาร์เวลก็เป็นซูเปอร์ฮีโร่ได้ด้วยการควบคุมการเคลื่อนไหวของหุ่นยนต์และแสงสีเสียงผ่านอุปกรณ์มือถือ พิชิตภารกิจ AR เปลี่ยนหน้าหุ่นยนต์เป็นใบหน้าของคุณเอง และเขียนโค้ดการเคลื่อนไหวเองเพื่อให้หุ่นยนต์ของคุณแตกต่างไม่เหมือนใคร

โดยในเกม AR ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากจักรวาลมาร์เวล เมื่อหุ่นยนต์ยืนอยู่บน Tracking pad สมรภูมิรบอเวนเจอร์สจะปรากฏขึ้น คุณต้องสวม Mark 50 และพิชิตภารกิจ AR เพื่อเก็บรวบรวมอุปกรณ์หุ่นยนต์นาโนเทคโนโลยี คุณจะได้รับอาวุธใหม่ๆ และอัพเกรดเกราะเมื่อผ่านเลเวลต่างๆ เพื่อเป็นซูเปอร์ฮีโร่ไร้เทียมทาน

เปลี่ยนคุณให้เป็นไอรอนแมนได้ง่ายๆ 
หน้ากากของหุ่นยนต์ Iron Man MK50 สามารถเปลี่ยนเป็นใบหน้าของคุณได้ เพียงแค่อัปโหลดวิดีโอและเสียงของคุณไปที่หุ่นยนต์ คุณก็จะกลายเป็นไอรอนแมน ซูเปอร์ฮีโร่ที่สุดยอดที่สุด นอกจากนั้นเรายังให้ไอรอนแมนทำตามคำสั่งได้ เพียงแค่ลากชุดคำสั่งต่างๆ หุ่นยนต์ไอรอนแมนก็จะเคลื่อนไหวตามคำสั่งได้ทันที

NANOTECH DEVELOPMENT
ทำภารกิจให้สมบูรณ์ด้วย Augmented Reality (AR) เพื่อสร้างคลังแสงของ Iron Man MK50 Robot ในแอปฟรีที่สามารถดาวน์โหลดได้ง่ายๆ

MOBILE COMMAND PROTOCOL
ใช้อุปกรณ์พกพาเพื่อควบคุมมอเตอร์ไฟและเสียงของ Iron Man MK50 Robot เลือกวลีที่เฉพาะเจาะจงหรืออัปโหลดใบหน้าของคุณเองและแม้กระทั่งบันทึกวลีเสียงเพื่อเป็นซูเปอร์ฮีโร่

หุ่นยนต์ของเล่น Iron Man รุ่น MK50 Robot

IRON GUARD PROTOCOL
หุ่นยนต์ Iron Man MK50 ใช้ความสามารถในการลาดตระเวนแบบกำหนดเองพร้อมเพิ่มเสียงและปฏิกิริยาแสงที่ใช้ร่วมกับเทคโนโลยีเซ็นเซอร์แสงที่ล้ำสมัย

CUSTOM PROTOCOL
ปรับแต่ง Iron Man MK50 Robot โดยการสร้างลำดับที่ไม่ซ้ำกัน โดยใช้การเขียน block-based programming  ตาม สำหรับการผจญภัยอย่างใดอย่างหนึ่ง

หุ่นยนต์ของเล่น Iron Man รุ่น MK50 Robot

ความเข้ากันได้
Iron Man MK50 Robot โดย UBTECH ต้องใช้อุปกรณ์อัจฉริยะ (iPhone / Android หรือแท็บเล็ต) เพื่อเปิดใช้งานร่วมกับ App และ App นี้ต้องการ RAM 1GB

ข้อกำหนดความเข้ากันได้สำหรับอุปกรณ์สมาร์ท:

iOS:เวอร์ชันระบบปฏิบัติการขั้นต่ำ: 11.0 ARKit 
อุปกรณ์ที่รองรับ: iPhone 6S ขึ้นไป, iPad Pro ขึ้นไป

Android:เวอร์ชันระบบปฏิบัติการขั้นต่ำ: 7.0+ (ระดับ API 23)
ดำเนินการอย่างเหมาะสมที่สุดบนอุปกรณ์ที่มี ARCore

การสะสมของเล่นช่วยพัฒนาทักษะการช่างสังเกต

การสะสมของเล่นช่วยพัฒนาทักษะการจัดระบบ

เช่นเดียวกับการสะสมสิ่งของประเภทอื่น ๆ ทักษะการจัดระบบ หรือ Organization Skill คืออีกหนึ่งทักษะสำคัญของนักสะสมของเล่น เพื่อรู้จักวิธีการแยกประเภท คอลเล็กชั่น สี ขนาด รุ่น หรือยี่ห้อต่าง ๆ ซึ่งหากคุณสามารถนำทักษะที่ว่ามาปรับใช้กับการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น ใช้เพื่อจัดแบ่งความสำคัญของงาน การเรียน หรือแม้แต่จัดแบ่งความสำคัญ ลำดับโปรเจคต่าง ๆ ย่อมสามารถช่วยให้คุณจัดการเรื่องต่าง ๆ ในชีวิตได้ดีขึ้นกว่าเดิมอย่างแน่นอน 

การสะสมของเล่นช่วยให้เรียนรู้วิธีการดูแลสิ่งของรอบตัว 

นักสะสมของเล่นมีหน้าที่สำคัญในการดูแลคอลเล็กชั่นของเล่นของตนให้ดูใหม่ สะอาดเอี่ยมและดูดีอยู่เสมอซึ่งขั้นตอนการดูแลของเล่นล้วนต้องอาศัยความละเอียดอ่อน ละเมียดละไมอยู่ไม่น้อย

ทั้งนี้ ถือว่าเป็นข้อดียิ่งนัก เพราะทักษะการจัดการของเล่นให้ดูคลีน น่าชมเชยตลอดเวลา จะส่งต่อเป็นนิสัยในการจัดการดูแลข้าวของชิ้นอื่น ๆ ได้ ดังนั้นแล้วหากคุณมีคนใกล้ตัวเป็นคนที่รักการสะสมของเล่นและโมเดล ตุ๊กตา ก็สามารถวางใจได้เลยค่ะว่าข้าวของชิ้นอื่น ๆ ของเขาเหล่านี้ จะได้รับการดูแลอย่างดี และแลดูสะอาดเรียบร้อยอยู่เสมอด้วยเช่นกัน

การสะสมของเล่นช่วยส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ 

สำหรับนักสะสมจำนวนมาก การสะสมของเล่น มิใช่เรื่องที่เกี่ยวกับการสะสมเท่านั้น แต่คอลเล็กชั่นของสะสมของพวกเขา อาจเป็นบ่อเกิดของจินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์ที่จะเกิดขึ้นตามมา โดยรู้ไหมว่านักเขียนนิยายที่ประสบความสำเร็จ รวมไปผู้กำกับภาพยนตร์หลาย ๆ คนล้วนเริ่มต้นการสร้างสรรค์ผลงานสร้างเงิน สร้างอาชีพได้จากคอลเล็กชั่นของเล่นของตัวเองนะคะ

การสะสมของเล่นช่วยบรรเทาความเครียด 

การสะสมของเล่น แท้จริงก็คืองานอดิเรกประเภทหนึ่ง ซึ่งเราทราบกันดีว่า การใช้เวลาไปกับงานอดิเรก สามารถช่วยปลีกความคิด ความเครียดออกจากปัญหาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาด้านการเรียน การงานที่กำลังรุมเร้าจิตใจ  ซึ่งงานอดิเรกสามารถช่วยให้เราเปลี่ยนจุดโฟกัส จากสิ่งที่รบกวนจิตใจ มายังสิ่งที่รักและทำให้เราผ่อนคลายได้

ว่าแล้ว หากคุณกำลังเครียด และอยากผ่อนคลายจิตใจที่เหนื่อยล้า ให้ระลึกไว้เสมอว่าการสะสมของเล่น หรือการเลือกทำงานอดิเรกประเภทอื่น ๆ ที่ตัวเองชอบ คือวิธีง่าย ๆ ที่สามารถช่วยคุณระบายความเครียดที่ได้ผล

การสะสมของเล่นช่วยสร้างสังคมใหม่ ๆ

อาจจะมาในรูปแบบของชมรม สมาคม หรือในรูปของเพจเฟสบุค หรือกลุ่มในโลกออนไลน์สำหรับผู้ชื่นชอบสิ่งของหรือมีงานอดิเรกประเภทเดียวกัน การสะสมของเล่นจึงช่วยให้คุณได้มีสังคมใหม่ ๆ นอกเหนือไปจากสังคมเพื่อนในโรงเรียน มหาวิทยาลัย หรือในที่ทำงานได้นั่นเอง

โดยเพื่อนกลุ่มใหม่นี้ จะประกอบไปด้วยผู้คนที่สนใจในสิ่งเดียวกันกับคุณค่ะ ซึ่งคุณอาจพบเจอเพื่อนใหม่ เพื่อนสนิท ได้จากกลุ่มคนที่ชอบสะสมของเล่นเหมือนกันกับคุณ ว่าแล้ว หากอยากเปิดโลก หรือรู้จักผู้คนที่สามารถพูดคุยกันถูกอกถูกคอ การค้นพบงานอดิเรกที่ตนชื่นชอบ คือหนึ่งในหนทางเริ่มต้นสู่กลุ่มเพื่อนใหม่ๆ นะคะ

การสะสมของเล่นช่วยสร้างนิสัยการใช้จ่าย

ถือเป็นประโยชน์ด้านการเงินที่ส่งผลดีแก่ผู้คนทุกเพศ ทุกวัย เพราะการสะสมของเล่นล้วนต้องใช้สตางค์เพื่อซื้อ หรือแลกเปลี่ยนมาแทบทั้งสิ้น

ทั้งนี้ คอลเล็กชั่นของเล่นแต่ละชิ้นก็อาจมีราคาสูง เด็ก ๆ วัยเรียนที่อยากเพิ่มเติมไอเท็มเพื่อมาเสริมให้คอลเล็กชั่นของเล่นของตนครบถ้วน หรือสนใจโมเดลของเล่นชิ้นไหนเป็นพิเศษ ก็ต้องริเริ่มนิสัยการเก็บเงิน หรือหางานพิเศษทำเพิ่มเติมเพื่อสะสมสำหรับของเล่นที่ตนชื่นชอบ นอกจากนี้ ในหมู่นักสะสมวัยทำงาน ก็ต้องเรียนรู้วิธีที่จะบริหารเงิน ลดค่าใช้จ่ายส่วนอื่น ๆ ของตน เพื่อเก็บสะสมมาเช่นกัน ซึ่งทั้งหมดนี้ ล้วนเป็นประโยชน์ในด้านส่งเสริมนิสัยการใช้จ่ายแทบทั้งสิ้นค่ะ

ฟิกเกอร์โมเดล น่าสะสม ตัวไหนดี ปี 2022

ซึ่งในปัจจุบัน ฟิกเกอร์โมเดลก็มีวางจำหน่ายให้เราได้เลือกซื้อกันอย่างมากมาย และสำหรับมือใหม่ที่สนใจเข้าสู่วงการสะสมฟิกเกอร์โมเดลก็อาจไม่ใช่เรื่องง่ายนักในการจะเริ่มซื้อฟิกเกอร์โมเดลสักตัว เพราะฟิกเกอร์ก็มีรูปแบบและราคาที่หลากหลาย รวมไปถึงมีสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญก่อนตัดสินใจซื้ออยู่ไม่น้อย ซึ่งในบทความนี้ เราจะแนะนำวิธีการเลือกฟิกเกอร์โมเดลที่เหมาะกับคุณ

ฟิกเกอร์กับโมเดลต่างกันอย่างไร ?

ฟิกเกอร์กับโมเดลต่างกันอย่างไร ?

สำหรับนิยามของฟิกเกอร์กับโมเดลนั้นหลายคนอาจจะยังไม่เข้าใจว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว โมเดล หมายถึง แบบจำลอง ซึ่งไม่ได้จำกัดรูปแบบแต่อย่างใด ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์, มอเตอร์ไซค์, เรือ หรือหุ่นยนต์ ฯลฯ แต่สำหรับฟิกเกอร์โมเดลนั้นจะเป็นโมเดลที่สร้างมาจากตัวละครที่อยู่ในหนัง เกมหรือการ์ตูนเรื่องต่าง ๆ เท่านั้น โดยจะมาเป็นรูปแบบของหุ่นตั้งโชว์เป็นตัว ๆ ไม่ต้องประกอบแต่อย่างใด ดังนั้น หากจะให้อธิบายง่าย ๆ ในมุมของนักสะสมของเล่น ฟิกเกอร์โมเดลก็คือ โมเดลรูปแบบหนึ่งที่สร้างมาจากตัวละครในหนัง การ์ตูนหรือเกมนั่นเองครับ

วิธีการเลือกฟิกเกอร์โมเดล

ด้วยความที่ฟิกเกอร์โมเดลในท้องตลาดมีหลายแบบ ดังนั้น ก่อนที่คุณจะตัดสินใจซื้อฟิกเกอร์โมเดลสักตัว ขอแนะนำให้อ่านวิธีการเลือกตรงนี้อย่างละเอียดเลยครับ เพื่อที่จะได้ซื้อฟิกเกอร์โมเดลที่ถูกใจและไร้ปัญหาตามมาภายหลังนั่นเอง

เลือกจากรูปแบบของฟิกเกอร์โมเดล

ฟิกเกอร์โมเดลนั้นสามารถแบ่งได้เป็น 2 แบบ คือ ฟิกเกอร์แบบปกติกับแอ็กชั่นฟิกเกอร์ ซึ่งแต่ละแบบก็จะมีลักษณะที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้น นี่คือสิ่งแรกที่คุณต้องพิจารณาให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อฟิกเกอร์โมเดล มาดูกันต่อเลยครับว่าฟิกเกอร์แบบไหนที่เหมาะกับคุณกันบ้าง

ฟิกเกอร์ปกติ

ฟิกเกอร์ปกติ

ฟิกเกอร์ปกติจะมีลักษณะเป็นโมเดลตัวละครแบบที่ใช้ตั้งโชว์โดยเฉพาะ ไม่สามารถขยับเพื่อปรับเปลี่ยนท่าทางของฟิกเกอร์ได้ ซึ่งฟิกเกอร์แบบปกติจะมีจุดเด่นในเรื่องของรายละเอียดที่ค่อนข้างสูงมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นผู้ผลิตที่มีคุณภาพ ตัวงานก็จะสวยงามเป็นพิเศษ นอกจากนี้ ฟิกเกอร์แบบปกติยังมักจะมีสเกลหรือขนาดให้เลือกหลายแบบ ตั้งแต่แบบเล็ก ๆ ไปจนถึงขนาดใหญ่มาก และมักมาพร้อมกับแท่นตั้งโชว์หรือฉากประกอบจากเนื้อเรื่อง เรียกได้ว่า แค่ตั้งโชว์ไว้ก็โดดเด่นถูกใจทั้งเจ้าของและแฟนคลับผู้พบเห็นแล้วครับ

แอ็กชั่นฟิกเกอร์

แอ็กชั่นฟิกเกอร์

goodsmile.info

แอ็กชั่นฟิกเกอร์ คือ ฟิกเกอร์โมเดลที่มีข้อต่อหลายจุดไว้เพื่อขยับและปรับท่าทางของฟิกเกอร์ได้ ซึ่งแอ็กชั่นฟิกเกอร์บางรุ่นนั้นถึงขึ้นสามารถเปลี่ยนชิ้นส่วนของฟิกเกอร์ได้อีกด้วย เช่น อาวุธ หัว มือ ฯลฯ ซึ่งถือเป็นจุดเด่นที่ช่วยให้เราสามารถเพลิดเพลินไปกับการเล่นหรือเปลี่ยนท่าทางของฟิกเกอร์ได้มากขึ้นนั่นเองครับ นอกจากนี้ แอ็กชั่นฟิกเกอร์เองก็มีสินค้าให้เลือกหลากหลายรูปแบบและหลายชื่อเรียก เช่น ฟิกม่า เนนโดรอยด์ เป็นต้น และแม้ชิ้นงานอาจจะไม่ได้อลังการหรือละเอียดเท่ากับฟิกเกอร์ปกติ แต่การที่สามารถขยับท่าทางได้ก็ถือเป็นจุดเด่นสำคัญที่ทำให้แอ็กชั่นฟิกเกอร์ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากครับ

เลือกจากขนาดของฟิกเกอร์โมเดล

เลือกจากขนาดของฟิกเกอร์โมเดล

โดยปกติแล้ว ขนาดของฟิกเกอร์โมเดลจะใช้การย่อส่วนจากขนาดของสัดส่วนจริงตามอัตราส่วนที่ทางผู้ผลิตกำหนด เช่น หากตัวละครดังกล่าวมีความสูง 180 ซม. แล้วโมเดลมีขนาด 1/6 นั่นแปลว่า โมเดลนั้นจะมีความสูงเท่ากับ 30 ซม. หรือก็คือ การนำ 180 หารด้วย 6 นั่นเองครับ ซึ่งสำหรับสัดส่วนของโมเดลก็จะมีตั้งแต่ 1/1, 1/3, 1/6 ฯลฯ แต่ขนาดที่นิยมผลิตกันมากที่สุดได้แก่ 1/6 และ 1/8 นั่นเอง

รู้จัก “PlanToys” แบรนด์ของเล่นจากไม้ยางพาราที่ให้เด็กๆ เล่นสนุกได้แบบรักษ์โลก

นับเป็นเวลา 40 ปีแล้วที่ แปลนทอยส์ (PlanToys) แบรนด์ของเล่นไม้ฝีมือคนไทยได้เริ่มลงมือผลิตของเล่นชิ้นแรกขึ้นใต้แนวคิดที่แตกต่างจากแบรนด์ของเล่นทั่วไป ณ เวลานั้น คือการผลิตของเล่นที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Eco-friendly) ให้เด็กๆ ได้เรียนรู้และเล่นสนุกได้โดยไม่เบียดเบียนธรรมชาติ นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ PlanToys เป็นมากกว่าแบรนด์ของเล่นทั่วไป “เล่นแบบรักษ์โลก”หากเปรียบเป็นตัวบุคคล ปีนี้ PlanToys เป็นผู้ใหญ่ใจดีที่ผ่านประสบการณ์มาแล้วมากมาย ย้อนกลับไปในปี...
Read More

ปลุกความเป็นเด็กใน ‘Toy Story 4’

กลับมาสร้างความประทับใจกันอีกครั้ง สำหรับภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่อง"Toy Story 4" กับการผจญภัยครั้งใหม่แกะกล่องของ "วู้ดดี้", "บัซ" และผองเพื่อนที่จะพาคุณกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง แม้ภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่องนี้จะจับกลุ่มผู้ชมครอบครัวและเด็กเป็นหลัก แต่ความสำเร็จทั้ง 3 ภาคที่ผ่านมานั้น ต้องบอกว่า "Toy Story" ได้จับกลุ่มผู้ชมมากมายทั่วโลก ที่ผ่านมาต้องบอกว่าเรื่องราวได้ดำเนินมาจนถึงจุดสิ้นสุดระหว่างความผูกพันของ "วู้ดดี้" และ "แอนดี้"...
Read More

Toys “R” Us อาณาจักรของเล่นสำหรับเด็กทุกช่วงวัย

ขายของเล่น แต่ทอยส์ "อาร์" อัส (Toys "R" Us) คืออาณาจักรแห่งการเรียนรู้กึ่งสวนสนุกที่ใหญ่ที่สุดสำหรับเด็กๆ ทุกช่วงวัย อัส (Toys "R" Us) ร้านขายของเล่นในสหรัฐอเมริกา มีสาขาตั้งอยู่ในยุโรป เอเชีย โอเชียเนีย แอฟริกาและแคนาดา ทั้งในแบบแฟรนไชส์และไลเซนส์ ร้านสาขาใหญ่ในนครนิวยอร์กที่ตั้งอยู่บริเวณไทม์สแควร์...
Read More

พาย้อนวัยเที่ยวพิพิธภัณฑ์ของเล่น Tooney Toy

พิพิธภัณฑ์ของเล่น Tooney Toy Museum อยู่ใกล้บ้านแม่เตยมากกก​ เรียกได้ว่าผ่านเกือบทุกวันพึ่งมีโอกาสได้พาเด็กๆมาวิ่งเล่น​ นอกจากเป็นพิพิธภัณฑ์​รวบรวมของเล่นแล้วด้านในจะมีคาเฟ่​ และมินิสนามเด็กเล่น​ มุมถ่ายรูปเยอะ​ ถูกใจแม่แน่นอน ในส่วนของพิพิธภัณฑ์​ จะเปิดเฉพาะ​ เสาร​์อาทิตย์​ ก่อนไปยังไงเช็คก่อนนะคะ ชอบใจถูกใจโพสต์​ อย่าลืมกด like กด share ให้เพจแม่ไปไหนหนูไปด้วย​...
Read More

กลับจากล้มละลาย! Toys “R” Us คัมแบ็กยิ่งใหญ่ เปิดตัวปูพรมในห้าง Macy’s กว่า 400 สาขา

หลังจากยื่นขอล้มละลายไปเมื่อปี 2018 ล่าสุด Toys “R” Us แบรนด์ของเล่นขวัญใจเด็ก ๆ ก็ได้ฤกษ์หวนคืนสมรภูมิค้าปลีกของสหรัฐอเมริกาอย่างเป็นทางการ โดยทางค่ายเตรียมเปิดตัวแบบปูพรมในห้าง Macy’s กว่า 400 สาขา ด้านห้าง Macy’s ก็ตอบรับกับการจับมือดังกล่าวด้วยการโชว์ยอดขายสินค้าหมวดของเล่นว่าเติบโตขึ้น 15 เท่าในไตรมาส 1...
Read More

Art Toy คืออะไรกันแน่ !?

Art toy คืออะไร มาจากไหน ? อาร์ตทอย หรือ ดีไซน์ทอย (Design Toy/ Designer Toy) ฝั่งเอเชียจะนิยมเรียกว่า “อาร์ตทอย” ฝั่งตะวันตกจะนิยมเรียกว่า “ดีไซน์เนอร์ทอย” แต่นิยามทั้งสองนั้นมีความหมายคล้ายคลึงกันคือ “ของเล่นที่ศิลปินเป็นผู้ออกแบบและผลิตขึ้นในจำนวนจำกัดเพื่อจำหน่ายหรือส่งมอบให้กับผู้อื่น” อาร์ตทอย นั้นได้ถือกําเนิดในช่วง...
Read More

Toys R Us กลับมาแล้ว จะเริ่มเปิดขายของเล่นในสหรัฐวันเสาร์นี้

หลังจากประสบภาวะล้มละลายตั้งแต่ปี 2017 ร้าน Toys R Us ร้านขายของเด็กเล่นชื่อดังที่เคยเป็นร้านขายของเด็กเล่นที่ใหญ่ที่สุดมีสาขามากที่สุดในโลก ก็กลับมาเกิดใหม่อีกครั้ง และจะเริ่มเปิดสาขาแรกในวันเสาร์ที่ 30 พฤศจิกายน 2019 นี้ (ตามเวลาในสหรัฐ) ร้าน Toys R Us ถาวรขนาดเล็ก 2...
Read More

ของเล่นเด็ก 5 ประเภท เลือกของเล่นให้ลูก เลือกให้ถูก เล่นได้นาน

"ของเล่น" เป็นสื่อที่ช่วยกระตุ้นพัฒนาการของเด็ก ช่วยทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ และช่วยเรื่งความสนุกสนานอีกด้วย แต่อย่าเพิ่งซื้อของเล่นเด็กให้ลูก ของเล่นเด็ก 5 ประเภท เลือกของเล่นให้ลูก เลือกให้ถูก เล่นได้นานถ้าพ่อแม่ยังไม่รู้ว่าของเล่นเด็กมีกี่แบบและแบบไหนเหมาะกับลูกเรา นี่คือ 5 ประเภทของเล่นเด็กเสริมพัฒนาการที่พ่อแม่ต้องรู้ เลือกได้ถูก เล่นได้นาน ไม่เปลืองเงินซื้อของเล่นบ่อยๆ ประเภทของของเล่นเด็ก ของเล่นที่ให้เด็กได้ออกแรง (Active...
Read More

สู่จักรวาล Toy Story อันไกลโพ้น! ที่มา 8 ของเล่นจากอนิเมชั่นที่หลายคนหลงรัก

Toy Story ถือว่าเป็นภาพยนตร์อนิเมชั่นคอมพิวเตอร์กราฟิกที่เดินทางมาอย่างยาวนาน เพราะถ้านับช่วงเวลาตั้งแต่ภาค 1 ออกฉายจนถึงปีค.ศ. 2019 ภาพยนตร์ชุดนี้ก็มีอายุอานาม 24 ปีแล้ว แถมในปีนี้ก็จะมีภาค 4 ออกมาให้ติดตามกันอีก โดยเรื่องราวของ Toy Story 4 นั้นเล่าถึง Woody, Buzz...
Read More

ลูกสาว-ลูกชาย เลือกของเล่นอย่างไรดี

การเล่น เป็นเครื่องมือหนึ่งที่ช่วยกระตุ้นพัฒนาการเด็ก ตั้งแต่เด็กเริ่มใช้มือหยิบจับสิ่งของ หรือเริ่มมีปฏิกิริยาโต้ตอบกับสิ่งรอบตัว การเล่นกับลูก จะช่วยเสริมสร้างทักษะและจินตนาการของลูกได้ พ่อแม่สามารถเล่นกับลูกได้ เช่น ชวนลูกเล่นวิ่งไล่จับ ซ่อนหา พาไปสนามเด็กเล่น ฯลฯ การซื้อของเล่นให้ลูก ก็ช่วยฝึกพัฒนาการ ความคิดสร้างสรรค์ กระตุ้นประสาทสัมผัส ได้เช่นกัน ของเล่นที่ดี ควรปลอดภัยจากสารพิษ ทนทาน...
Read More