ของเล่นเด็ก 5 ประเภท เลือกของเล่นให้ลูก เลือกให้ถูก เล่นได้นาน

“ของเล่น” เป็นสื่อที่ช่วยกระตุ้นพัฒนาการของเด็ก ช่วยทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ และช่วยเรื่งความสนุกสนานอีกด้วย แต่อย่าเพิ่งซื้อของเล่นเด็กให้ลูก

ของเล่นเด็ก 5 ประเภท เลือกของเล่นให้ลูก เลือกให้ถูก เล่นได้นาน
ถ้าพ่อแม่ยังไม่รู้ว่าของเล่นเด็กมีกี่แบบและแบบไหนเหมาะกับลูกเรา นี่คือ 5 ประเภทของเล่นเด็กเสริมพัฒนาการที่พ่อแม่ต้องรู้ เลือกได้ถูก เล่นได้นาน ไม่เปลืองเงินซื้อของเล่นบ่อยๆ

ประเภทของของเล่นเด็ก

  1. ของเล่นที่ให้เด็กได้ออกแรง (Active play)
    ประเภทกีฬา เช่น ลูกบอล จักรยานสามล้อ อุปกรณ์ยิมนาสติก ประโยชน์คือ เสริมสร้างร่างกายและกล้ามเนื้อให้แข็งแรง อาจจะรวมถึงอุปกรณ์กีฬา เช่น ไม้แบตมินตันสำหรับเด็ก

ADVERTISEMENT

  1. ของเล่นที่เด็กต้องสร้างขึ้นและควบคุมการเล่นเอง (Manipulative play)
    เด็ก ๆ สามารถต่อ หรือประกอบให้เป็นรูปร่างได้ เช่น เลโก้ ไม้บล็อก จิ๊กซอว์ หรือโมเดลชุดหุ่นยนต์ ประโยชน์คือ ฝึกกล้ามเนื้อมือ และช่วยฝึกทักษะทางด้านคณิตศาสตร์ อย่างการก่อทรายหรือการต่อไม้บล็อก เด็กจะต้องคำนวณให้ฐานใหญ่เพื่อที่ยอดด้านบนจะไม่ล้ม
  2. ของเล่นที่เลียนแบบของจริง (Make-Belive play)
    เช่น ชุดจำลองอุปกรณ์ทำครัว ชุดเครื่องมือหมอ และชุดแต่งตัวตุ๊กตาบาร์บี้ เป็นต้น ประโยชน์คือ ฝึกทักษะให้เด็กได้ใช้ของเหมือนจริงเพื่อเติมเต็มจินตนาการ เอื้อให้การเล่นบทบาทสมมติของเด็กสมบูรณ์แบบขึ้น
  3. ของเล่นส่งเสริมจินตนาการ (Creative play)
    คือของเล่นประเภท สีน้ำ สีไม้ แป้งโด ดินน้ำมัน หรือเครื่องดนตรี ประโยชน์คือ ส่งเสริมจินตนาการของเด็กให้บรรเจิด
  4. ของเล่นเพื่อการเรียนรู้ (Learning play)
    คือ ของเล่นเพื่อการพัฒนาทักษะ เช่น นิทาน หรือเกม ชุดทดลองวิทยาศาสตร์ ประโยชน์คือ ตอบสนองการเรียนรู้ที่ไม่หยุดยั้งของเด็กวัยคิดส์ คุณพ่อคุณแม่อาจจะต้องเล่นด้วยเพื่อให้ของเล่นนั้นสัมฤทธิ์ผลและไม่ควรเลือกของเล่นที่ยากเกินกว่าเขาจะเข้าใจนะคะ อาจจะเริ่มต้นด้วยเกมเศรษฐี หรือเกมบันไดงู

ADVERTISEMENT

วิธีซื้อของเล่นเด็กให้คุ้มทั้งเงินและประโยชน์กับลูก
เหมาะกับวัยของลูก โดยดูจากสัญลักษณ์ที่ระบุไว้ข้างกล่อง
มาตรฐานการันตี สังเกตเครื่องหมาย มอก. (มาตรฐานโรงงานอุตสาหกรรม) เป็นเครื่องหมายที่ใช้ในประเทศไทย
แข็งแรงทนทาน ไม่ประกอบไปด้วยชิ้นส่วนหรือวัสดุที่แตกง่าย ตัวกล่องบรรจุของเล่นต้องแข็งแรงและทนทาน เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นกับของเล่น
วัสดุที่นำมาประกอบต้องไม่เป็นชิ้นเล็ก ๆ ที่หลุดออกง่าย
ของเล่นอิเล็กทรอนิกส์ ต้องไม่เกิดความร้อนมากเกินไป ไม่เสี่ยงต่อการเกิดไฟฟ้าดูด ไม่ใช้ไฟเกินกว่า 24 โวลต์
หลีกเลี่ยงของเล่นที่ต้องใช้ความรุนแรงหรือมีเสียงดังเกิน 85 เดซิเบลในการเล่น เช่น ปืน ลูกดอก หรือประทัดที่อันตรายและก่อเสียงดังทำลายหู
สีและพลาสติกที่ใช้ต้องไม่มีส่วนผสมของสารตะกั่ว ปรอท โครเมียม สารหนู พลวง แบเรียม แคดเมียม หรือมีในปริมาณที่มอก.วางมาตรฐานไว้
คำอธิบายชัดเจนบนกล่องของเล่น ระบุถึงส่วนประกอบและวัสดุที่ใช้ทำของเล่น รวมไปถึงโรงงานที่ผลิต ถ้าเป็นของเล่นนำเข้า ต้องมีบริษัทหรือโรงงานที่นำเข้าของเล่น และมีคำอธิบายการเล่นอย่างละเอียดด้วย เพื่อป้องกันการเข้าใจผิดและใช้งานผิดวัตถุประสงค์นั่นเอง
ถ้าเป็นของเล่นที่เลียนแบบเครื่องป้องกันตัว เช่น หมวกกันน็อก หรือแว่นตาที่เลียนแบบนักวิทยาศาสตร์ จะต้องมีข้อความเตือนเหล่านี้ “ไม่สามารถใช้ป้องกันอันตรายได้เหมือนของจริง” “ไม่สามารถใช้ป้องกันแสงอุลตร้าไวโอเลตได้” “อย่าวางใกล้วัตถุไวไฟหรือใกล้ความร้อน” “อย่ายิงใกล้ตาหรือหู”

นโยบายความปลอดภัย ‘ของเล่นเด็ก’ มีความสำคัญ เมื่อสารเคมีในของเล่นเป็นอันตรายต่อสุขภาพของเด็ก

เนื่องจากสุขภาพของเด็กมีความเปราะบางที่อาจได้รับผลกระทบจากเคมีภัณฑ์ อาทิ พอลิเมอร์ เม็ดสี (pigments) สารเติมแต่งพลาสติไซเซอร์ในพลาสติก ผ้า ไม้ หรือเหล็กที่เป็นส่วนประกอบของ ‘ของเล่นเด็ก’

กรอบนโยบายระดับโลกด้านการจัดการเคมีภัณฑ์ที่ประกอบไปด้วยรัฐบาลและองค์กร-ผู้มีส่วนได้เสียต่าง ๆ อย่างยุทธศาสตร์โลกว่าด้วยการจัดการเคมีภัณฑ์ระหว่างประเทศ (The Strategic Approach to International Chemicals Management – SAICM) จึงเผยแพร่รายงานที่ศึกษานโยบายและกฎระเบียบว่าด้วยความปลอดภัยของเล่นเด็กในเรื่องเคมีภัณฑ์ที่อันตรายและน่ากังวล (chemicals of concern) ในประเทศรายได้ต่ำและรายได้ปานกลาง (รวมถึงไทย) โดยเฉพาะที่มีมูลค่าการนำเข้าของเล่นเด็กจากประเทศจีนจำนวนมาก เพื่อเน้นย้ำความสำคัญของการมีข้อกำหนดที่ชัดเจนและสอดคล้องกับสากล รวมทั้งการบังคับใช้และกลไกของทั้งภาครัฐและบริษัทของเล่นเด็กในการควบคุมเคมีภัณฑ์เหล่านั้น

โดยประเทศรายได้ปานกลางทั้งหมดที่ทำการศึกษา ได้แก่ เม็กซิโก อินเดีย รัสเซีย คาซัคสถาน มาเลเซีย บราซิล ไทย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ซึ่งผลการศึกษาปรากฎว่ามีทั้งประเทศที่มีการระบุอย่างเจาะจง/การจำกัดประเภท/ปริมาณเคมีภัณฑ์ในของเล่นเด็ก กับประเทศที่ยังไม่มีความชัดเจน ไม่มีรายละเอียด หรือไม่มีการอ้างถึงมาตรฐานของประเทศหรือตามสากล เช่นเดียวกันกับประเทศที่มีรายได้ต่ำ ซึ่งพบว่าทาจิกิสถานและแทนซาเนียต่างก็มีกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง ขณะที่ประเทศอื่น ๆ อาทิ เยเมน ซีเรีย เกาหลีเหนือ โมซัมบิก กลับไม่พบข้อมูล

ทั้งนี้ แม้ว่าในภาพรวม กฎระเบียบที่เกี่ยวกับเคมีภัณฑ์บางชนิดในประเทศต่าง ๆ จะมีความสอดคล้องกันอย่างมาก แต่ข้อกำหนดเกี่ยวกับเคมีภัณฑ์ในนโยบายความปลอดภัยของเล่นเด็กก็ยังคงมีความแตกต่างอยู่มาก โดยสำหรับ SAICM ที่ได้มีการจัดอันดับเคมีภัณฑ์ที่อันตรายและน่ากังวล ได้หวังให้ผู้มีส่วนได้เสียในห่วงโซ่ของการผลิต เร่งออกมาตรการควบคุมเคมีภัณฑ์ในของเล่นเด็ก โดยการดำเนินการ อาทิ

ประเทศต่าง ๆ อาจจะนำมาตรฐานสากลเป็นตัวตั้งในการจัดทำนโยบายความปลอดภัยของเล่นเด็ก โดยคำนึงถึงความเข้มงวดและรัดกุมของนโยบาย
ประเทศที่ผลิตหรือนำเข้าของเล่นเด็กจะต้องผลักดันให้มีกลไกในการปฏิบัติตามกฎระเบียบของทางการ
บริษัทผู้ผลิตของเล่นเด็กจะต้องตระหนักและเข้าใจถึงข้อกำหนด-กฎระเบียบดังกล่าวด้วย
เนื้อหาภายในรายงานยังได้เรียกร้องให้ผู้มีส่วนได้เสียในห่วงโซ่การผลิตของเล่นเด็ก ร่วมมือกันตลอดจนปรับปรุงความสอดคล้องของข้อกำหนดทางกฎหมาย ศักยภาพที่จะปฏิบัติตามและความโปร่งใส รวมถึงการบังคับใช้ข้อกำหนดเหล่านั้น

ทั้งนี้ โดยมีเป้าหมายเพื่อสุขภาพของเด็กและการเล่นที่ปลอดภัย

ประเด็นดังกล่าวเกี่ยวข้องกับ

SDG3 สุขภาพและสุขภาวะที่ดี

– (3.9) ลดจำนวนการตายและการป่วยจากสารเคมีอันตรายและจากการปนเปื้อนและมลพิษทางอากาศ น้ำ และดิน ให้ลดลงอย่างมาก ภายในปี 2573

SDG12 การผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน

– (12.4) จัดการสารเคมีและของเสียทุกชนิดในวิธีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตลอดทั้งวงจรชีวิต ลดการปล่อยออกสู่อากาศ น้ำ และดินอย่างมีนัยสำคัญ เพื่อลดผลกระทบทางลบที่จะมีต่อสุขภาพของมนุษย์และสิ่งแวดล้อมให้มากที่สุด ภายในปี 2563

“เล่น” อย่าง “ยั่งยืน” เสริมพัฒนาการ ไม่สร้างขยะ

“เล่น” อย่าง “ยั่งยืน” เสริมพัฒนาการ ไม่สร้างขยะ

แปลนทอยส์ “ของเล่น” เด็กจากไม้ยางพารา ที่ไม่เพียงแค่กระบวนการผลิตเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และไม่ใช้สารเคมีเท่านั้น แปลนทอยส์ ยังมีโมเดลธุรกิจที่ส่งเสริมให้เกิดการใช้ซ้ำ เพื่อให้ตลอดอายุการใช้งานของของเล่นหนึ่งชิ้นคุ้มค่าที่สุด

ของเล่นเด็ก เป็นสินค้าที่มีช่วงอายุการใช้งานสั้นเนื่องจากพัฒนาการของเด็กที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้หลายครั้ง ของเล่นดีๆ ถูกทิ้งอย่างสูญเปล่า หรือไม่ก็ลงไปอยู่ในบ่อฝังกลบ “การเล่นที่ยั่งยืน” จึงเป็นแนวคิดที่ช่วยให้ตั้งแต่กระบวนการผลิต ไปจนถึงมือผู้บริโภคของของเล่นชิ้นหนึ่ง มีการใช้งานอย่างคุ้มค่าที่สุด

ขณะเดียวกัน ของเล่น ชิ้นหนึ่งซึ่งมีราคาค่อนข้างสูง ทำให้หลายคนไม่สามารถเข้าถึงได้ โมเดลการให้ยืมของเล่นจึงเกิดขึ้น เพื่อให้เกิดการใช้ซ้ำ โดย บริษัท แปลน ครีเอชั่นส์ จำกัด ผู้ผลิตและส่งออกของเล่นเด็กจาก ไม้ยางพารา ภายใต้แบรนด์ “PlanToys” ซึ่งมีจุดเริ่มต้นจาก 7 สถาปนิกที่อยากเห็นความเปลี่ยนแปลงของสังคมรวมตัวก่อตั้งบริษัทสถาปนิกรับออกแบบอาคาร เมื่อ 40 ปีก่อน ขยับสู่การสร้างโรงเรียนอนุบาลในเครือรักลูก โดยนำวิธีการเรียนการสอนแบบใหม่ส่งเสริมพัฒนาการของเด็กผ่านการเล่น พัฒนาต่อยอดเป็น โรงเรียนรุ่งอรุณ ในปัจจุบัน

“เล่น” อย่าง “ยั่งยืน” เสริมพัฒนาการ ไม่สร้างขยะ

“โกสินทร์ วิระพรสวรรค์” กรรมการผู้จัดการ บริษัท แปลน ครีเอชั่นส์ จำกัด เล่าว่าผู้ก่อตั้งทุกคนเป็นนักออกแบบ จุดเริ่มต้นของเล่นแปลนทอยส์ คือ การออกแบบของเล่นที่ใช้ในโรงเรียน ไม่ใช่แค่เสริมทักษะให้เด็กๆ เท่านั้น แต่ของเล่นยังผลิตจากไม้ยางพาราใน จ.ตรัง ที่หมดอายุในการให้น้ำยางแล้ว เพื่อใช้ทรัพยากรธรรมชาติให้เกิดประโยชน์สูงสุด และลดมลพิษจากการเผาไม้ ใช้วัสดุที่ได้การรับรองว่าปลอดสารฟอร์มัลดีไฮด์ เช่น ไม้และกาว เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กสัมผัสกับสารเคมีที่เป็นอันตราย

“ปณิธานตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท คือ การทำธุรกิจต้องไม่เบียดเบียนสังคม สิ่งแวดล้อม ปลอดภัยกับพนักงานและผู้บริโภค ในอดีตเราเริ่มจาก “Play in Harmony with Nature” ของเล่นที่เข้าได้กับสิ่งแวดล้อม ยุคถัดมา เริ่มใช้คำว่า Green Toy, Green Company ของเล่นสีเขียว จากบริษัทสีเขียว และเมื่อ 15 ปีที่ผ่านมา มีการค้นหาตัวตนของแปลนทอยส์ใหม่จนเริ่มรู้จักคำว่า Sustainability”

สร้าง “การเล่นที่ยั่งยืน”

แปลนทอยส์ มุ่งขับเคลื่อน “ความยั่งยืน” 3 มิติ ได้แก่ ผู้คน (People) โลก (Planet) และผลกำไร (Profit) สู่แนวคิด “การเล่นที่ยั่งยืน” ผ่านนโยบายของบริษัทฯ คือ

“Sustainable Play” 

การทำธุรกิจที่ยั่งยืน ทั้งเรื่องออกแบบ การผลิต รวมทั้งในเรื่องของคาร์บอนฟรุตพรินต์  ซึ่งขั้นตอนการผลิตในโรงงานปล่อยคาร์บอน 1,800 ตันต่อปี กระบวนการที่ของเล่นไปอยู่ในตลาด อยู่ในบ่อฝังกลบปล่อยคาร์บอนกว่า 5,000 – 6,000 ตันต่อปี

“เล่น” อย่าง “ยั่งยืน” เสริมพัฒนาการ ไม่สร้างขยะ

“แม้กระบวนการผลิตจะเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แต่หลังจากนั้นกลับปล่อยคาร์บอนจำนวนมาก อีกทั้ง พบปัญหาว่า สินค้าบางตัวมีอายุการใช้งานเพียง 3-4 เดือน สุดท้ายบางครอบครัวขายต่อ แต่ส่วนใหญ่ถูกทิ้ง ดังนั้น การเล่นที่ยั่งยืน จึงไม่ใช้แค่การผลิตอีกต่อไป แต่ต้องโฟกัสเรื่องกระบวนการเล่นด้วย”

  • เกิดธุรกิจให้เช่าของเล่น “Toy Library” ที่สาทร และ จ.ตรัง คิดค่าเช่า 10% ของราคาสินค้า”
  • นอกจากนี้ ยังสร้างพื้นที่การเล่น “Forest of Play” ที่สาทร สนามของเล่นที่ผลิตจากวัสดุรีไซเคิล เด็กๆ สามารถเข้ามาเล่นได้ โดยจ่ายแค่ค่าเข้าต่อครั้ง ของเล่นทุกชิ้นผลิตจากของรีไซเคิล
  • รวมถึง “Play Group” ร่วมกับ มูลนิธิกระต่ายในดวงจันทร์ จัดแคมป์เด็กๆ ที่ยังไม่เข้าโรงเรียน ได้ศึกษาธรรมชาติใน จ.ตรัง จัดกิจกรรมเรียนรู้ผ่านการเล่น เพราะเชื่อว่า การเล่น จะทำให้พัฒนาการต่างๆ ของเด็กดีขึ้น
  • และ “Toy Clinic” บริการรับซ่อมของเล่นที่เสียหายอีกด้วย
“เล่น” อย่าง “ยั่งยืน” เสริมพัฒนาการ ไม่สร้างขยะ

“Sustainable Way” 

วิธีการทำธุรกิจอย่างไรให้ยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นการเลือกวัสดุไม้ยางพารา 100% ไม่ใช้สารเคมีในการอัดเนื้อไม้ ใช้สีออร์แกนิก ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและปลอดภัย รวมถึงกาวที่มีคุณภาพสูง ติดตั้งโซลาร์เซลล์ที่โรงงาน

และกำหนดนโยบาย 80% ของทรัพยากรทั้งหมดต้องมาจากภายใน 30 กิโลเมตรรอบโรงงาน เพื่อลดการขนย้าย ลดการปล่อยคาร์บอน รวมถึงการดูแลพนักงาน 650 คน จัดตั้งสหกรณ์ออมทรัพย์ สร้างสภาวะการออมเพื่อแก้ปัญหาการเงิน เปิดสหกรณ์ร้านค้า และเริ่มใช้ยางพาราเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการผลิตของเล่นด้วย

“Sustainable World” 

นำมาสู่การทำให้โลกยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นปลูกป่ามากกว่า 20-30 ปี และสิ่งที่สร้างผลกระทบเชิงบวกได้มากที่สุด คือเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมาพบว่ายังมีเด็กอีกกลุ่มคือเด็กด้อยโอกาส พิการ แปลนทอยส์ จึงชวนคุณแม่ที่มีลูกเป็นเด็กพิการ ในกทม. 200 คนมาทำเวิร์กช้อปออกแบบของเล่น เนื่องจากคุณแม่กลุ่มนี้รู้ดีว่าลูกๆ ต้องการอะไร และคัด 3 ผลงานที่ดีที่สุด คือ ของเล่นสำหรับเด็กออทิสติกส์ เด็กพิการทางสายตา พิการทางสมอง ผลิตเป็นของเล่นแจกทั่วโลก

“เล่น” อย่าง “ยั่งยืน” เสริมพัฒนาการ ไม่สร้างขยะ

ของเล่นรักษ์โลกเพื่อผู้สูงวัย

ล่าสุด ผลิตของเล่นผู้สูงวัย ขณะนี้มีสินค้า 5-6 ชนิด ที่ผ่านการวิจัยและพัฒนา วางขายแพกเกจพิเศษในช่วงวันแม่ อาทิ ชุดออกกำลังกายสมองที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้สูงอายุและคนในครอบครัวได้ใช้เวลาร่วมกัน

แปลนทอยส์ให้ความสำคัญกับการเล่นมากว่า 40 ปี และเชื่อว่าการเล่นไม่เพียงแค่ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการที่ดีให้กับเด็กแต่ยังช่วยชะลอการเสื่อมถอยของสมรรถภาพทางร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญาในผู้สูงอายุได้เช่นกัน

“เล่น” อย่าง “ยั่งยืน” เสริมพัฒนาการ ไม่สร้างขยะ

โกสินทร์ กล่าวต่อว่า บริษัทฯ ตั้งเป้าสู่ ความเป็นกลางทางคาร์บอน ในส่วนของโรงงานที่ปล่อย 1,800 ตันต่อปีภายใน 3 ปีข้างหน้า ด้วยการติด โซลาร์เซลล์ รวบรวมสวนยางของบริษัทฯ และรอบข้างที่สนใจราว 2,000 ไร่ เพื่อรับรองเรื่องของการชดเชยคาร์บอน (Carbon Offset) โดย องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการ

“แม้เราไม่สามารถเปลี่ยนโลกได้ แต่สิ่งที่ทำได้ คือ เปลี่ยนกระบวนการภายใน เปลี่ยนความคิดเด็ก เปลี่ยนความคิดครอบครัวเริ่มจากสังคมเล็กๆ ความท้าทาย คือ การสร้างความรับรู้ ความเข้าใจให้กับผู้บริโภคว่าโลกร้อนมันมีอยู่จริง หากเราไม่เปลี่ยนแปลงอนาคตเราจะอยู่ไม่ได้” โกสินทร์ กล่าวทิ้งท้าย

Education Toys : ของเล่นเพื่อการศึกษา

Education Toys : ของเล่นเพื่อการศึกษา
ของเล่นกับเด็กเป็นสิ่งที่หนีกันไม่ได้จริง ๆ ความรู้ ความฉลาด ก็เป็นสิ่งที่พ่อแม่ทุกคนต้องการให้อยู่คู่กับเด็ก ๆ เช่นเดียวกัน จะเป็นสิ่งที่ดีแค่ใหนหากเด็ก ๆ จะได้เรียนรู้ผ่านการเล่น ซึ่งจะทำให้ได้ทั้งความสนุกสนานและ พัฒนาความรู้ไปด้วยพร้อม ๆ กัน

4 STEM TOYS ของเล่นเสริมพัฒนาการ พาไปบุกโลกแห่งสะเต็มศึกษา

ของเล่นเสริมพัฒนาการ 7 STEM TOYS ของเล่นเสริมพัฒนาการ พาไปบุกโลกแห่งสะเต็มศึกษา

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ หลายประเทศทั่วโลกหันมาให้ความสนใจกับ “สะเต็มศึกษา” เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มสำคัญที่สะเต็มศึกษาจะเข้ามามีอิทธิพลต่ออนาคตที่กำลังจะเกิดขึ้นอันใกล้นี้ เป็นเหตุให้คุณพ่อคุณแม่และอาจารย์ในสถานศึกษา ต้องวางรากฐานความรู้อันสำคัญนี้ให้กับเด็กยุคใหม่ไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ และสิ่งเหล่านี้สามารถเริ่มต้นทำได้ตั้งแต่ที่บ้าน

ผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการเด็กกล่าวไว้ว่า โดยธรรมชาติของเด็กแล้วการเรียนรู้ที่ดีที่สุดจะเกิดขึ้นในขณะที่พวกเขากำลังเล่นในสิ่งที่ชื่นชอบ

และเราสามารถจุดประกายการเรียนรู้และความคิดสร้างสรรค์ผ่านการเล่นของเด็ก ๆ ได้ด้วยเช่นกัน และนี่คือเทคนิคการสร้างสกิลเทพแห่งศตวรรษที่ 21 นั่นก็คือ “การแก้ปัญหาและใช้วิจารณญาณได้อย่างเชี่ยวชาญ” นั่นเอง

คุณพ่อคุณแม่คงพอเห็นภาพแล้วว่าการเรียนรู้แบบสะเต็มศึกษา เป็นทักษะจำเป็นที่ลูกต้องมีในอนาคต และทักษะเหล่านี้สร้างได้จากของเล่นชิ้นโปรด ในบทความนี้เราจะพาไปรู้จักกับ “ของเล่นเสริมพัฒนาการ ส่งเสริมการเรียนรู้สไตล์สะเต็มศึกษา” อาวุธสำคัญที่จะพาเด็ก ๆ ไปค้นพบความเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ซ่อนอยู่ในตัวเอง มาเริ่มกันเลย!!

STEM TOY 1 : Cosmo หุ่นยนต์คอสโมอัจฉริยะ

ไม่ต้องห่วงว่าลูกจะเหงาอีกต่อไป เพราะมีหุ่นยนต์คอสโมคู่ใจคอยเคียงข้างลูกแล้ว “คอสโม” หุ่นยนต์ตัวจิ๋วอัจฉริยะ หุ่นยนต์แสนฉลาดที่สามารถแสดงอารมณ์ความรู้สึกผ่านหน้าจอขนาดเล็กกะทัดรัด มีความสามารถในการจดจำใบหน้าคน แถมยังโต้ตอบกับคนได้อีกด้วย

STEM TOY 2 : Squishy Human Body หุ่นจำลองโครงกระดูกและอวัยวะในร่างกาย

ปลุกความเป็นนักชีววิทยาตัวจิ๋วด้วย “หุ่นจำลองโครงกระดูกและอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกาย” เป็นของเล่นสุดล้ำที่จะพาเด็ก ๆ ไปสำรวจร่างกาย พาไปเรียนรู้กายวิภาคศาสตร์และร่างกายของมนุษย์ มาพร้อมกับหนังสือที่จะพาเด็ก ๆ ไปเรียนรู้เกี่ยวกับหน้าที่และระบบต่าง ๆ ในร่างกาย ยกตัวอย่างเช่น ระบบย่อยอาหาร ระบบไหลเวียนเลือด กล้ามเนื้อ โครงกระดูกในร่างกาย เป็นต้น

STEM TOY 3 : Math For Love Prime Club เกมกระดานจำนวนเฉพาะ

ของเล่นเสริมพัฒนาการที่คุณหนู ๆ ห้ามพลาด “เกมกระดานจำนวนเฉพาะ” ออกแบบมาเพื่อเด็กยุคใหม่โดยเฉพาะ  เพื่อให้เด็ก ๆ ได้ฝึกใช้ทักษะทางคณิตศาสตร์ในเรื่องจำนวนเฉพาะกันอย่างเต็มที่ เล่นง่าย ๆ โดยทอยลูกเต๋า และหยิบไพ่จำนวนเฉพาะ จากนั้นก็ไปสนุกกันต่อในบอร์ดเกมนี้ได้เลย

STEM TOY 4 : Code Master Programming เกมเซียนเขียนโค้ดขั้นเทพ

Code Master ปั้นลูกให้เก่งโค้ดด้วยของเล่นชิ้นนี้ ออกแบบมาเพื่อน้อง ๆ วัยประถมโดยเฉพาะ โดยเจ้าของเล่นชิ้นนี้เป็นที่สอนพื้นฐานการคิดเชิงคำนวณ การคิดแก้ไขปัญหาอย่างเป็นลำดับขั้นตอน และที่สำคัญยังเป็นของเล่นที่สอนการเขียนโค้ดขั้นพื้นฐานให้กับลูก ๆ ของคุณได้อีกด้วย

แนะนำของเล่นเสริมพัฒนาการลูกน้อยวัยแรกเกิด – 12 เดือน

‘ของเล่นเสริมพัฒนาการ’ มีส่วนช่วยสร้างเสริมพัฒนาการของลูกอย่างรอบด้าน เมื่อเติบโตร่างกายจะค่อย ๆ ปรับและมีพัฒนาการไปตามที่ควรจะเป็น เกิดกระบวนการผนึกเซลล์สมองเข้าด้วยกัน ส่งผลให้เด็กที่เล่นของเล่นเสริมพัฒนาการสามารถเรียนรู้ จดจำ สังเกตและเข้าใจสิ่งต่าง ๆ ได้ง่ายและมีประสิทธิภาพมากกว่าเด็กทั่วไป

ของเล่นเสริมพัฒนาการ จึงมีความสำคัญต่อลูกน้อย Cotton Baby จะมาแนะนำของเล่นเสริมพัฒนาการที่เหมาะกับเด็กแต่ละช่วงวัยให้คุณพ่อคุณแม่ไปจัดหามาให้คุณลูกได้เล่นกันค่ะ

พัฒนาการของลูกวัยแรกเกิด

ช่วงแรกเกิดลูกจะรับความรู้สึกได้จากการถูกสัมผัสและคว้าจับสิ่งของได้ นอกจากนี้ลูกจะสามารถขยับแขน ขา กระพริบตา หรือส่ายศีรษะไปมาได้เมื่อมีวัตถุมาสัมผัส เด็กจะมองเห็นทุกอย่างเป็นสีขาว ดำ หรือเฉดสีเทา มองตามวัตถุที่เคลื่อนไหวได้

พอเข้าวัย 1 เดือน ลูกจะมองเห็นวัตถุต่าง ๆ ได้ในระยะ 8-12 นิ้ว เป็นระยะที่พอดีกับตอนที่คุณแม่อุ้มให้นม มองตามวัตถุที่เคลื่อนไหวได้ และจะเริ่มสนใจกับสิ่งที่ผ่านตาไปด้านข้าง แต่ยังไม่สามารถขยับแค่ดวงตาเพื่อมองด้านข้างได้ จะหันทั้งหัวเพื่อมองแทน เขาอาจมองพ่อแม่แค่เพียงช่วงเวลาสั้น ๆ เท่านั้น ซึ่งในช่วงอายุนี้ ลูกจะชอบวัตถุที่มีสีสันสดใส โดดเด่น มากกว่าสีโทนพาสเทล

การกระตุ้นพัฒนาการลูกวัยแรกเกิด อุ้มลูกบ่อย ๆ คุยกับลูกใกล้ ๆ รวมถึงแสดงสีหน้า เช่น ยิ้ม แลบลิ้น อ้าปาก เพื่อให้ลูกทำตามและมองเห็นได้ชัด ช่วงแรกเกิดควรใช้ของเล่นเสริมพัฒนาการที่มีเฉดสีขาว ดำ เพื่อกระตุ้นพัฒนาการที่ตรงกับวัยมากขึ้นพอลูกอายุ 1 เดือนแนะนำของเล่นที่มีสีสันสะดุดตา เช่น สีแดง ส้ม ฟ้า เหลือง มีเสียงกรุ๊งกริ๊ง หรือเสียงดนตรีด้วยก็จะยิ่งดี ของเล่นที่จับบีบแล้วมีเสียงจะช่วยดึงดูดความสนใจและลูกจะเริ่มโฟกัสที่วัตถุตรงหน้า

ของเล่นเสริมพัฒนาการเด็กวัยแรกเกิด

ของเล่นเสริมพัฒนาการเด็กวัยแรกเกิด

หนังสือผ้า Joan Miro My First Soft Book Set

ของเล่นเสริมพัฒนาการ หนังสือผ้าที่มีเนื้อผ้านิ่ม มีสีสันโทนสดใส วัสดุสามารถเอาเข้าปาก กัด อม ได้ ไม่เป็นอันตรายต่อลูก เวลาบีบแล้วจะมีเสียงกร๊อบแกร๊บ ช่วยกระตุ้นพัฒนาการด้านการฟัง และ ช่วยกระตุ้นพัฒนาการด้านการมองเห็น ช่วยดึงดูดสายตาของลูกให้โฟกัสได้ดียิ่งขึ้น

ของเล่นเสริมพัฒนาการ โมบายและการ์ดภาพ Black and White Cards and Mobile Combo

โมบายและการ์ดภาพ Black and White Cards and Mobile Combo

ของเล่นเสริมพัฒนาการ เซ็ตโมบายพร้อมการ์ดภาพ ตัวโมบายมีทั้งลายเส้นขาว-ดำ และสีสันสดใสที่ตัดกัน ช่วยกระตุ้นการมองเห็นสำหรับเด็กช่วงวัยแรกเกิดได้เป็นอย่างดี ส่วนการ์ดภาพก็มีทั้งขาว-ดำและสีสันเช่นกัน เหมาะตามวัยเด็ก ช่วยเสริมการมองเห็นและแยกแยะสี เล่นได้ตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 12 เดือน

  • เสริมพัฒนาการตามวัยด้านการมองเห็น ของเด็กแรกเกิดที่จะเริ่มมองเห็นภาพเป็นสีขาวดำก่อน
  • ตัวโมบายมีการ์ดภาพสี แยกตามอายุของเด็ก การ์ดภาพลายเส้นขาว-ดำ สำหรับเด็กอายุ 0-6 เดือน ส่วนการ์ดภาพสีสันที่ตัดกัน สำหรับเด็กอายุ 6-12 เดือน

เป็นของเล่นเสริมพัฒนาการที่คุ้มสุด ๆ ช่วยเสริมพัฒนาการให้ลูกได้อย่างต่อเนื่อง คุณพ่อคุณแม่ควรมีติดบ้านไว้เป็นอย่างยิ่ง หากสนใจทาง Cotton Baby มีราคาพิเศษมาให้ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ด้านล่างนะคะ

พัฒนาการของลูกวัย 2-4 เดือน

เมื่อลูกอายุประมาณ 2 เดือน เขาจะเริ่มมองตามวัตถุที่เคลื่อนไหวไปมา แม้ว่าดวงตาทั้งสองข้างจะยังทำงานไม่สมบูรณ์ แต่ไม่ต้องกังวลไป พอเขาโตขึ้นพัฒนาการจะค่อย ๆ ดีขึ้นเอง

เมื่อเข้าเดือนที่ 3-4 ลูกจะสามารถกวาดสายตาเพื่อจับวัตถุใดวัตถุหนึ่งจากภาพกว้างได้ อาจจะมีการขยับแขนตามการมองเห็นหรือใช้มือจับสิ่งนั้น นอกจากนี้ลูกอาจมีการหันหาเสียงหัวเราะ ส่งเสียงอ้อแอ้ตอบกลับในบางครั้งด้วย

การกระตุ้นพัฒนาการลูกวัย 2-4 เดือน เล่น สัมผัส และพูดคุยกับลูกบ่อย ๆ ให้เขาส่งเสียงโต้ตอบ ของเล่นเสริมพัฒนาการควรมีสีสันตัดกันให้ลูกได้มองเห็นมากขึ้น หรือของเล่นที่จับแล้วมีเสียง พร้อมกับพูดชื่อสีนั้นให้ลูกได้ยินไปด้วยจะช่วยเสริมพัฒนาการด้านสื่อสารและการจดจำ นอกจากนี้ยังควรเพิ่มการเคลื่อนย้ายของเล่นจากข้างหนึ่งไปอีกข้างหนึ่งเพื่อให้ลูกมองตามได้

ของเล่นเสริมพัฒนาการเด็กวัย 2-4 เดือน

ของเล่นเสริมพัฒนาการ ตุ๊กตาโมบาย Activity Doofy Dog

ตุ๊กตาโมบาย Activity Doofy Dog

ของเล่นเสริมพัฒนาการตุ๊กตาโมบายสีสันสดใส มีลวดลายให้ลูกได้เรียนรู้เรื่องสีกระตุ้นการมองเห็น โดยมีลูกเล่นส่วนลำตัวที่เขย่าแล้วมีเสียง บีบส่วนมือก็มีเสียง เพื่อให้ลูกเรียนรู้เรื่องการได้ยิน ของเล่นผลิตจากวัสดุอ่อนนุ่มมาพร้อมยางกัดสำหรับเด็กที่ปลอดภัย สามารถติดกับรถเข็นหรือเตียงได้

พัฒนาการของลูกวัย 5-8 เดือน

ช่วงอายุ 5-8 เดือน ลูกจะเริ่มรับรู้และจดจำสิ่งต่าง ๆ ได้ว่าสิ่งนั้นคืออะไร แม้จะเห็นเพียงบางส่วนก็ตาม เขาจะรับรู้ว่าวัตถุอยู่ห่างจากตัวเองมากแค่ไหน มองเห็นโลกแบบสามมิติ มองเห็นสีได้มากขึ้นและจดจำสิ่งต่าง ๆ เด็กวัยนี้จะเริ่มมีฟันน้ำนมขึ้น ลูกอาจมีอาการคันเหงือกและหยิบจับสิ่งของเข้าปากมากขึ้นกว่าเดิม

การกระตุ้นพัฒนาการลูกวัย 5-8 เดือน เพิ่มการเรียกชื่อลูกจากทิศทางต่าง ๆ หรือบอกสิ่งที่กำลังจะทำกับลูก เช่น อาบน้ำ แต่งตัว ทานข้าว และอุ้มลูกให้น้อยลงปล่อยให้หัดนั่งเองบนพื้นที่ปลอดภัยโดยมีพ่อแม่ดูแลอยู่ใกล้ ๆ หาของเล่นเสริมพัฒนาการที่เป็นสามมิติ มีแสงสีและเสียงเพลงมากระตุ้นการมองเห็นและการจดจำของลูก ที่สำคัญคือต้องเตรียมของเล่นที่เป็นยางกัดนิ่ม ๆ เอาไว้ให้ลูกกัดแก้คันเหงือกและช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของฟัน

ของเล่นเสริมพัฒนาการเด็กวัย 5-8 เดือน

ของเล่นเสริมพัฒนาการ โคมไฟ Guardian Angel

โคมไฟ Guardian Angel

ของเล่นเสริมพัฒนาการโคมไฟสามมิติ Guardian Angel มีฟังก์ชัน Projection, Night light และ Music เป็นโคมไฟฉายภาพอวกาศที่เคลื่อนไหวได้มาพร้อมกับเสียงดนตรี เหมาะสำหรับเปิดให้ลูกฟังตอนกลางคืน เปลี่ยนสี และเปลี่ยนเพลงได้ตามใจชอบ ช่วยเรื่องพัฒนาการด้านการมองเห็น การได้ยิน เละการจดจำแล้ว และช่วยกล่อมลูกให้นอนหลับง่ายขึ้นด้วย

ของเล่นเสริมพัฒนาการ Baby Banana Infant Toothbrush

Baby Banana Infant Toothbrush

แปรงยางกัดกล้วย ของเล่นเสริมพัฒนาการและทักษะ ช่วยเรื่องการเจริญเติบโตของฟัน เนื่องจากเด็กวัยนี้จะเริ่มมีฟันน้ำนมขึ้นแล้ว ลูกจะหยิบจับของเข้าปากอยู่เป็นประจำ พ่อแม่จึงควรเตรียมของเล่นที่เป็นยางกัดนิ่ม ๆ เอาไว้ให้ลูกใช้ฝึกกัดและเคี้ยวแก้คันเหงือก และยังช่วยเตรียมความพร้อมให้ลูกชินเวลามีอะไรมาสีกับฟัน เมื่อฟันขึ้นเขาจะไม่ต่อต้านการแปรงฟัน

พัฒนาการของลูกวัย 9-12 เดือน

ตอนอายุ 9 เดือน จะเริ่มรับรู้ถึงระยะทางความห่างได้เมื่อลูกพยายามจะยืนขึ้นทรงตัว และเมื่อเข้าอายุ 10 เดือน ก็จะเข้าใจถึงระยะความห่างพอที่จะหยิบจับสิ่งของบางอย่างขึ้นมาระหว่างนิ้วโป้งกับนิ้วชี้มากขึ้น และฟังรู้ภาษา เข้าใจสีหน้า ท่าทาง ตอบสนองส่งเสียงเป็นคำ ๆ ได้

เมื่ออายุ 12 เดือน ลูกจะเข้าใจการหยิบจับสิ่งของต่าง ๆ มากขึ้น และเป็นวัยที่กำลังหัดคลานเพื่อพยายามเดิน มองวัตถุเคลื่อนที่ด้วยความเร็ว หยิบของเข้า-ออกจากกล่องได้ ที่สำคัญเด็กวัยนี้อาจมีการเลียนแบบท่าทางที่เห็น เช่น โบกมือ ไหว้ โยกตัวตามจังหวะเพลง

การกระตุ้นพัฒนาการลูกวัย 9-12 เดือน เล่นกับลูก ปรบมือ ทำท่าทางต่าง ๆ บ่อยขึ้น ให้ลูกฝึกหยิบอาหารชิ้นเล็ก ๆ ทานเอง และเป็นตัวอย่างให้ลูกทำท่าทางเลียนแบบ เตรียมสถานที่โล่ง ปลอดภัยไว้สำหรับให้ลูกหัดคลาน ยืน หาของเล่นเสริมพัฒนาการที่มีรูปทรงชัดเจนจะช่วยกระตุ้นให้ลูกเข้าใจการหยิบจับมากขึ้น พูดคุยกับลูกว่าสิ่งที่กำลังเล่นอยู่คืออะไร พร้อมสอนคำศัพท์ต่าง ๆ ไปด้วย เนื่องจากเด็กวัยนี้จะฟังรู้ภาษามากขึ้นถ้าเสริมด้วยของเล่นเข้าไปจะช่วยเสริมสร้างพัฒนาการอย่างรอบด้าน

ของเล่นเสริมพัฒนาการเด็กวัย 9-12 เดือน

ของเล่นเสริมพัฒนาการ Co-Block บล็อกตัวต่อแบบนิ่ม

Co-Block บล็อกตัวต่อแบบนิ่ม

เด็กวัยนี้จะอยากเรียนรู้ด้วยตัวเองเป็นนักสำรวจตัวน้อย ของเล่นเสริมพัฒนาการอย่าง Co-Block บล็อกตัวต่อแบบนิ่ม คล้าย Jelly มีรูปทรงชัดเจนและสีสันหลากหลาย ผลิตจากวัสดุพิเศษ BPA FREE ปลอดภัยสำหรับเด็ก ช่วยกระตุ้นให้ลูกโฟกัสสายตาได้ดียิ่งขึ้น เด็กจะต่อบล็อกให้เป็นรูปทรงตามที่จินตนาการ ได้ใช้ความคิดหยิบจับสิ่งนี้มาต่อสิ่งนั้น ช่วยเสริมความสัมพันธ์ระหว่างดวงตาที่มองเห็นสีได้ชัดเจน มือที่ใช้หยิบบล็อกมาต่อ และใช้สมองคิดว่าจะต่อเป็นรูปทรงอะไร ได้เป็นอย่างดี สามารถให้ลูกเริ่มหยิบจับบล็อกตัวต่อได้ตั้งแต่อายุ 2-4 เดือน เพื่อให้เรียนรู้รูปทรงและสร้างจินตนาการก่อนที่จะต่อเป็นรูปทรงได้

ของเล่นเด็ก ควรเลือกที่เหมาะสมตามวัย

ของเล่นเสริมพัฒนาการเด็กแรกเกิด ของเล่นเด็ก 6 เดือน ซื้ออะไรให้ลูกดีนะ?
  1. เด็กแรกเกิด – 3 เดือน ของเล่นที่สามารถติดบริเวณเตียงหรือเปลได้ เช่น โมบายล์ ตุ๊กตาของเล่นแขวนที่ขอบเปลนิ่ม ๆ เป็นต้น ประโยชน์ : ลูกนอนมองโมบายล์อย่างสบายอารมณ์และเพลิดเพลิน แถมยังเอามือไขว่เอื้อมคว้าด้วย

ของเล่นควรสีสลับให้เห็นอย่างเด่นชัด เช่น สีขาว-ดำ แดง-ขาว เขียว-น้ำเงิน บางชนิดทันสมัยมีกระจกเงาเล็กสะท้อนแสงแวบ ๆ ด้วย ประโยชน์ : เนื่องจากช่วง 3 เดือนแรกนี้ สายตาเด็กจะมองเห็นสิ่งของที่มีสีสันตัดกันได้ชัดกว่าสีเรียบ ๆ ลูกจะรู้จักมองตามของเล่น แม้ในตอนนี้จะมองได้ไม่ชัดเท่าผู้ใหญ่ อีกทั้งภาพและแสงสะท้อนในกระจกก็เรียกความสนใจได้ดีเช่นกัน

มีเสียงดนตรีหรือเสียงกรุ๊งกริ๊งอยู่ในของเล่น ประโยชน์ : เด็กจะพยายามหาต้นกำเนิดของเสียง เพิ่มความสนใจของเล่นที่แขวนอยู่ในเปลได้อีกด้วย

  1. วัย 4 เดือน – 6 เดือน วัยนี้สามารถเคลื่อนไหวตัวได้มากขึ้น และมีพัฒนาการหลายอย่างมากขึ้นด้วย เช่น การคว้าจับถนัดขึ้น ฟันเริ่มขึ้น มองเห็นชัดขึ้น ฉะนั้นของเล่นจึงมีความจำเป็นที่จะต้องเข้ากับพัฒนาการลูกได้ด้วย

ยางกัดนิ่ม ๆ ควรเลือกที่ได้คุณภาพเป็นพลาสติกหรือยางที่มีความคงทนแข็งแรง เมื่อบีบดูแล้วไม่มีของเหลวข้างในไหลออกมา เลือกสีสันให้สดใสหรือมีลูกเล่นข้างในยางกัดด้วยก็ได้ ประโยชน์ : วัยนี้ฟันกำลังขึ้น ถ้าสังเกตจะเห็นว่า ลูกจะชอบหยิบจับของเข้าปาก จึงควรเตรียมยางกัดเอาไว้เป็นของเล่นแก้คันเหงือกดีกว่าคว้าของอย่างอื่นมากัดเล่น

กรุ๊งกริ๊งหรือตุ๊กตานิ่มที่มีเสียงกระดิ่งดังข้างใน แต่ต้องสังเกตด้วยว่ากระดิ่งและสีไม่หลุดลอกง่าย พลาสติกต้องไม่มีขอบคม แตกหักยาก สีสดใสเหมาะมือ ประโยชน์ : ลูกเริ่มใช้มือในการคว้าจับ และถ้ามีเสียงด้วย ก็จะยิ่งอยากจับและเขย่า ช่วยให้ลูกใช้มือและกล้ามเนื้อแขนได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ

  1. วัย 7 เดือน – 9 เดือน บางคนก็เริ่มคลานคล่องแล้ว ของเล่นก็ต้องเพิ่มลูกเล่นไปตามศักยภาพของลูก ให้สมกับวัยนักสำรวจตัวน้อย

เลือกเครื่องเล่นที่ต้องใช้ทักษะหลาย ๆ ด้าน เช่น กดแล้วมีเสียงต่าง ๆ ต้องใช้การหมุน บิด ตี ดึง เป็นต้น

ประโยชน์ : นักสำรวจน้อย จะหยิบ ๆ จับ ๆ ของเล่นและหัดเล่น เรียนรู้ด้วยตนเอง ของเล่นที่หลากหลายจะเพิ่มทักษะและประสบการณ์ชีวิตได้อย่างไม่น่าเบื่อ

บล๊อกอันเล็ก ๆ ทรงสี่เหลี่ยม สามเหลี่ยม วงกลม หรือตัวต่อทักษะง่าย ๆ ทำจากไม้หรือผ้า ประโยชน์ : ได้ใช้ความคิดหยิบจับไปวางตรงนู้นตรงนี้ ตาเริ่มสัมพันธ์กับมือไปเรื่อย ๆ

หนังสือก็เป็นของเล่นได้เหมือนกัน แต่ควรเป็นหนังสือที่มีภาพสวยงามสดใส เหมือนจริง เล่มใหญ่ และตัวหนังสือน้อย หรือเป็นหนังสือผ้าที่แต่ละหน้ามีพื้นผิวต่าง ๆ ให้ลูกจับสัมผัส ประโยชน์ : เป็นการปลูกนิสัยรักการอ่าน เด็กจะรู้สึกว่าหนังสือคือสิ่งที่สามารถจับต้องได้เคยชิน และได้เรียนรู้ จดจำภาพแต่ละภาพที่มีอยู่ในหนังสือด้วย

  1. วัย 10 เดือน – 1 ขวบ เริ่มซนจนจับไม่อยู่แล้ว แต่ในขณะเดียวกันของเล่นก็ยังมีความจำเป็นต่อการพัฒนาเด็กมากอยู่ดี เพราะระหว่างที่เขาได้เล่นจะเกิดความสุขใจ เกิดประสบการณ์จากการเล่น พัฒนาทั้งสติปัญญาและร่างกายอีกด้วย

ของเล่นมีลักษณะต่าง ๆ สี่เหลี่ยม กากบาท รูปดาว เป็นต้น ใส่ช่องตามรูปร่าง หรือหยิบใส่ เทออกจากกล่องบรรจุ

ประโยชน์ : ได้เรียนรู้ถึงรูปร่างของของเล่นแต่ละชิ้นที่หยิบจับ เริ่มรู้จักการกะปริมาณอย่างง่าย เช่น ใส่จนเต็ม หรือเททิ้งจนภายในถังว่างเปล่า

ของเล่นที่มีล้อ เช่น รถชนิดแล่นไปแล้วชนกำแพงตีลังกากลับมาได้เอง รถดึงลาก มีเสียง ประโยชน์ : ล่อตาล่อใจให้ลูกเคลื่อนตัวไปจับไปเข็น ซึ่งเมื่อเคลื่อนไหวบ่อยครั้ง แขนขาก็จะแข็งแรงขึ้นไม่ล้มง่าย

เลือกของเล่นที่ส่งเสริมพัฒนาการและทักษะของเด็กในแต่ละด้าน

เลือกของเล่นให้เหมาะสมกับช่วงวัยของเด็ก
เลือกของเล่นให้เหมาะสมกับช่วงวัยของเด็ก

อันดับแรกควรคำนึงถึง “ความแตกต่างระหว่างบุคคล” เพราะเด็กแต่ละคนแม้จะอยู่ในช่วงวัยเดียวกัน ก็จะมีพัฒนาการ ความชอบและความสนใจที่แตกต่างกัน ดังนั้นการเลือกของเล่นให้เด็กจึงเป็นสิ่งสำคัญ และละเอียดอ่อนอย่างมาก ดังนั้น ก่อนเลือกซื้อของเล่นผู้ปกครองควรมีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับพัฒนาการของเด็กเบื้องต้นก่อนค่ะ

  • เด็กแรกเกิด – 6 เดือน : ควรเลือกเป็นของเล่นที่มีสีสันสดใส มีเสียง เช่น โมบายล์ ตุ๊กตา ของเล่นที่เขย่าแล้วมีเสียง เนื่องจากเด็กในวัยนี้มองเห็นสิ่งของที่มีสีสันตัดกันได้ชัดกว่าสีเรียบและเสียงเป็นสิ่งที่กระตุ้นความสนใจของเด็กได้ดี
  • 6 เดือน – 1 ปี : ควรเลือกของเล่นที่เด็กได้หยิบจับ มีพื้นผิวสัมผัสที่แตกต่างกัน เช่น หยาบ นุ่ม แข็ง นิ่ม ของเล่นยางกัด เพื่อกระตุ้นประสาทสัมผัสของเด็ก รวมไปถึงของเล่นที่เด็ก ๆ ได้เคลื่อนที่ เช่น รถลากจูง ลูกบอล เพื่อให้เด็กได้เคลื่อนไหวและฝึกการก้าวเดิน 
  • 1 – 2 ปี : ควรเป็นของเล่นที่ได้ใช้กล้ามเนื้อมือและตาอย่างประสานสัมพันธ์กัน เช่น กล่องรูปทรงเรขาคณิต การร้อยลูกปัดขนาดใหญ่ การต่อบล็อก การเล่นดินน้ำมัน เป็นต้น การพัฒนาการกล้ามเนื้อมือและตาให้ประสานสัมพันธ์กันทำให้เด็กเคลื่อนไหวร่างกายอย่างคล่องแคล่วและเป็นพื้นฐานที่ดีในการขีดเขียน
  • 2 – 3 ปี : ควรเลือกของเล่นที่ฝึกการทรงตัว เช่น จักรยานสามล้อ ม้าโยก เป็นต้น เนื่องจากเด็กในวัยมีพัฒนาการกล้ามเนื้อมัดใหญ่ที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็วเริ่มวิ่งและกระโดดสองขาได้ รวมไปถึงของเล่นที่ช่วยให้เด็กได้จำแนกหรือจัดกลุ่ม เช่น การจัดวางรูปทรง การจับคู่ภาพกับเงา ของเล่นบทบาทสมมุติ รวมไปถึงนิทานภาพ เนื่องจากวัยนี้จะสามารถแยกวัตถุจากขนาดหรือสีได้แล้ว จึงช่วยให้เด็กมีการแสดงออกทางอารมณ์ที่ชัดเจนขึ้นและมีการเรียนรู้ศัพท์ใหม่ได้มากขึ้น
  • 3 – 4 ปี : ควรเลือกของเล่นที่ส่งเสริมจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ เช่น ตัวต่อ บล็อกไม้ แม่เหล็กรูปทรง สมุดระบายสี แป้งโดว์ เป็นต้น ของเล่นบทบาทสมมติ เช่น ตุ๊กตา ชุดสัตว์ ชุดทำอาหาร เล่นขายของ ชุดเครื่องมือช่าง เป็นต้น เนื่องจากเป็นวัยที่มีจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์อย่างไร้ขีดจำกัด
  • 4 – 6 ปี : ควรเป็นของเล่นที่ส่งเสริมการคิดอย่างมีเหตุผลและเสริมสร้างจินตนาการ เช่น บอร์ดเกม จิ๊กซอว์ Sequencing Games Magic Magnet เป็นต้น เนื่องจากเด็กในวัยนี้มีพัฒนาการทางสติปัญญาที่พัฒนาไปอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว

การเลือกของเล่นให้เหมาะสมกับช่วงวัยเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก ควรเริ่มต้นจากการให้เด็กเล่นของเล่นง่าย ๆ ก่อน แล้วค่อย ๆ เพิ่มความยากและความท้าทายไปตามวัย เพื่อที่จะเสริมสร้างความมั่นใจหรือการเห็นคุณค่าในตนเอง ถ้าหากเด็กได้เล่นของเล่นที่ยากเกินความสามารถก็จะทำให้เด็กขาดความมั่นใจได้ แต่หากง่ายเกินไปก็อาจทำให้เด็กรู้สึกเบื่อหน่ายได้เร็วขึ้น

“จิ๊กซอว์” เป็นหนึ่งในของเล่นที่ช่วยเสริมพัฒนาการให้แก่เด็ก ๆ

MIS PUBLISHING จิ๊กซอว์สำหรับเด็ก จิ๊กซอว์ต่อสนุก ABC & ตัวเลข 1

วิธีการเลือกจิ๊กซอว์สำหรับเด็ก

เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงมีปัญหาในการเลือกจิ๊กซอว์ให้กับเด็ก ๆ เราไปดูกันเลยค่ะว่าเกณฑ์การเลือกจิ๊กซอว์สำหรับเด็กมีอะไรบ้าง แล้วเลือกแบบไหนถึงจะเหมาะสม ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกันเลยค่ะ

เลือกจิ๊กซอว์ให้เหมาะสมกับอายุของเด็ก

ในการเลือกซื้อจิ๊กซอว์นั้น เราขอแนะนำให้เลือกให้เหมาะกับอายุของเด็ก โดยคุณสามารถสังเกตได้จากข้อมูลที่ระบุไว้บนกล่อง เนื่องจาก เด็กแต่ละวัยมีพัฒนาการและทักษะที่แตกต่างกัน คุณพ่อคุณแม่จึงควรเลือกจิ๊กซอว์ให้ตรงกับช่วงอายุของเด็กเพื่อกระตุ้นให้เด็กเกิดความรู้สึกอยากเล่น ซึ่งเราขอแบ่งลักษณะของจิ๊กซอว์ตามอายุ ดังต่อไปนี้ค่ะ

จิ๊กซอว์สำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 3 ขวบ

จิ๊กซอว์สำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 3 ขวบ

จิ๊กซอว์สำหรับเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 3 ขวบจะเป็นชิ้นใหญ่และมีจำนวนชิ้นที่น้อย โดยจะมีประมาณ 2 – 9 ชิ้นใน 1 แผ่น เนื่องจาก เด็กเล็กทักษะการประสานงานระหว่างมือและตายังไม่พัฒนามากนัก ส่วนตัววัสดุมักจะเป็นกระดาษแบบหนาพิเศษหรือไม้ที่ไม่มีส่วนคม เพื่อป้องกันการบาดเจ็บระหว่างเล่น มีลวดลายตัวการ์ตูนและสีสันสดใสเพื่อดึงดูดใจเด็ก ๆ ให้หยิบเล่น การเลือกจิ๊กซอว์สำหรับเด็กวัยนี้ควรเลือกจิ๊กซอว์ที่ให้เด็กได้เรียนรู้เกี่ยวกับรูปร่าง สิ่งของ ตัวเลข สี ตัวอักษร หรือคำศัพท์ง่าย ๆ จะเป็นการฝึกการสังเกตให้เด็กในการนำชิ้นส่วนมาต่อเรียงกันได้อีกทาง

จิ๊กซอว์สำหรับเด็กอายุ 3 – 6 ขวบ

จิ๊กซอว์สำหรับเด็กอายุ 3 - 6 ขวบ

เด็กอายุ 3 – 6 ขวบจะเริ่มเรียนรู้เกี่ยวกับสิ่งรอบตัวมากขึ้นเพราะเป็นวัยแห่งการค้นหา และเริ่มสนใจในรูปร่างที่แตกต่างรวมถึงเข้าใจรูป 3 มิติได้มากขึ้น ดังนั้น การเลือกจิ๊กซอว์สำหรับเด็กวัยนี้ควรเป็นตัวการ์ตูนที่สามารถนำมาเล่าต่อเป็นเรื่องราวได้ หรือเป็นจิ๊กซอว์ที่มีรูปร่างที่แตกต่างจากการต่ออยู่ในแผ่นสี่เหลี่ยม นอกจากนี้ ยังควรมีจำนวนชิ้นที่มากกว่า 10 ชิ้นขึ้นไป เพื่อฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์และการแก้ปัญหาให้กับเด็ก พร้อมทั้งยังสามารถพัฒนาให้เด็กเข้าใจและฝึกทักษะการเล่าเรื่องราวให้มากขึ้นผ่านการเล่นได้อีกด้วย จิ๊กซอว์อีกประเภทที่สามารถเลือกให้เด็กวัยนี้ได้ก็คือจิ๊กซอว์ 3 มิติแบบง่ายซึ่งจะทำให้เด็กเข้าใจรูปทรง 3 มิติและการเชื่อมต่อรูปทรงให้เป็นภาพ เป็นการช่วยฝึกจินตภาพและจินตนาการให้เด็กได้อีกทาง

จิ๊กซอว์สำหรับเด็กอายุ 6 ขวบขึ้นไป

จิ๊กซอว์สำหรับเด็กอายุ 6 ขวบขึ้นไป

สำหรับเด็กอายุ 6 ปีขึ้นไปจะมีพัฒนาการในการเข้าใจหลักการและเหตุผลมากยิ่งขึ้น เข้าใจในเรื่องของขนาดและสีที่แตกต่างแ และสามารถนับจำนวนได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ การประสานงานของระบบต่าง ๆ ก็ทำงานอย่างสัมพันธ์กันมากขึ้น เด็กจึงเริ่มมีความสนใจเฉพาะสำหรับตนเอง จิ๊กซอว์ก็เป็นอีกหนึ่งของเล่นที่ดีสำหรับเด็กวัยนี้ เพราะจะช่วยเรื่องของสมาธิและพัฒนาทักษะที่มีอยู่แล้วให้ดีมากยิ่งขึ้น โดยคุณสามารถเลือกจิ๊กซอว์ที่มีจำนวนชิ้นมากกว่า 30 – 50 ชิ้น นอกจากจิ๊กซอว์กระดาษธรรมดาแล้วยังสามารถเลือกจิ๊กซอว์ที่มีชิ้นส่วนเป็นรูปร่างที่แตกต่างและนำมาต่อเป็นรูปร่างได้อย่างอิสระ ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างจินตนาการให้กับเด็กได้

ของเล่นเด็กสุดฮิตโดนใจวัยซน เสริมสร้างพัฒนาการเด็กๆ

1. BUILD A BEAR WORKSHOP

มอบของขวัญสุดพิเศษให้กับลูกน้อยที่น่ารัก ด้วยตุ๊กตากระต่าย หรือ ตุ๊กตาตัวการ์ตูนจากแอนิเมชั่น My Little Pony ดีไซน์น่ารักสีสันสดใส ขนนุ่มฟูน่าสัมผัส รับรองว่าเด็กผู้หญิงทุกคนจะต้องชอบอย่างแน่นอน

2. ตุ๊กตาหมี

เพลิดเพลินไปกับตุ๊กตาหมีน่ารักๆ และซอฟท์ทอยจาก MAMAS & PAPAS ตุ๊กตามาพร้อมชุดเฉดพาสเทล สัมผัสนุ่มน่ากอด เหมาะกับมอบให้เป็นเพื่อนวัยเด็กและลูกน้อยตัวจิ๋ว

3. ตุ๊กตาเจ้าหญิงราพันเซล

ตุ๊กตาเจ้าหญิงราพันเซล เพื่อนใหม่ที่ทั้งน่ารักน่าสะสม สามารถพกพาไปได้ทุกที่ คุณหนูๆ จะต้องเพลิดเพลินไปกับตุ๊กตาเจ้าหญิงแสนสวยคาแร็กเตอร์ยอดฮิตจาก DISNEY PRINCESS อย่างแน่นอน

4. ชุดเครื่องดนตรี

ชุดเปียโนดีไซน์สุดหวานจาก RILAKKUMA ของเล่นเสริมพัฒนาการซึ่งจะเข้ามาปลุกพรสวรรค์ของเด็กๆ ที่มีใจรักในเสียงดนตรี ฝึกทักษะความสามารถที่อาจซ่อนอยู่ในตัว เฉิดฉายออกมาสู่ภายนอกให้ทุกคนได้ชื่นชม

5. SYLVANIAN FAMILIES

บ้านของเล่นตุ๊กตากระต่าย SYLVANIAN FAMILIES น่ารักน่าสะสม ในเซ็ตนี้เป็นชุดปาร์ตี้ริมทะเล มีของประดับตกแต่งสวยงาม ของเล่นเด็กผู้หญิงสุดฮิตที่เหมาะจะเป็นของขวัญปีใหม่สุดๆ

6. BARBIE

มอบรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้ลูกสาวตัวน้อย ด้วยตุ๊กตาของเล่นบาร์บี้ มาพร้อมของเก๋ๆ ที่จะทำให้เด็กๆ สนุกสนานไปกับการเรียนรู้ และช่วยเติมเต็มจินตนาการของลูกรัก

7. ปืนของเล่น

เสริมสร้างจินตนาการสุดมันไปกับปืนของเล่น ที่จะทำให้เด็กๆ ได้เข้าไปอยู่ในโลกอันแสนตื่นเต้นและเพลิดเพลินไปกับเกมโดยไม่ทันตั้งตัว มอบความสนุกอันยิ่งใหญ่กับให้กับลูกชายในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้กันเถอะ

8. หุ่นยนต์ไดโนเสาร์

หุ่นยต์ไดโนเสาร์ที่สามารถบังคับได้อิสระ ดวงตามีไฟ สามารถใช้มือเล่นกับเซ็นเซอร์ได้ ช่วยให้เด็กๆ พัฒนาทักษะอย่างดีเยี่ยม หนึ่งในตัวเลือกของขวัญเสริมพัฒนาการของเจ้าหนูวัยซน

9. รถบังคับวิทยุ

มอบรถของเล่นบังคับวิทยุดีไซน์สุดเท่ ที่มาในรูปแบบสีแดง-ดำตัดกัน ให้กับลูกชายที่ชื่นชอบความเร็วดุจสายฟ้าเนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่นี้ ก็คงจะชื่นใจไม่มากก็น้อยเลยทีเดียวล่ะ

10. ชุดคอสตูม BATMAN

ให้ฝันของเด็กชายตัวน้อยเป็นจริงด้วยการแปลงร่างเป็นซูเปอร์ฮีโร่ในดวงใจ เลือกชุดคอสตูม BATMAN แต่งตัวน้องๆ ช่วยต่อเติมจินตนาการสร้างความสนุกสนานต้อนรับศักราชใหม่

11. ตัวต่อเสริมทักษะ LEGO

ตัวต่อเสริมทักษะ LEGO สำหรับน้องๆ เล่นเพื่อความสนุกสนาน พร้อมทั้งฝึกทักษะพัฒนาการของสมอง เสริมสร้างจินตนาการของเด็กได้อย่างไม่รู้จบ

12. รถแบตเตอรี่

เอาใจนักซิ่งตัวจิ๋วด้วยรถสปอร์ตสุดเท่ มาพร้อมกับลูกเล่นที่หลากหลายทั้งเรื่องแสงสีเสียง มีให้เลือกทั้งระบบรีโมทคอนโทรลหรือจะปล่อยให้เด็กๆ ขับเองก็ย่อมได้

13. สระน้ำเป่าลม

ให้วันหยุดส่งท้ายปีนี้เป็นเวลาของครอบครัวด้วยสวนน้ำสไลเดอร์ไดโนแลนด์ ที่จะทำให้ทุกช่วงเวลามีแต่เสียงหัวเราะ เติมเต็มความสุขที่คอยมอบให้กันและกัน

14. ชุดของเล่น 3 in 1

ชุดของเล่น 3 in 1 ซึ่งประกอบไปด้วยสไลเดอร์ ชิงช้า และแป้นบาส ให้เด็กๆ สนุกสนานเพลิดเพลินได้ไม่รู้เบื่อด้วยเครื่องเล่นนานาชนิด

15. ดินสอสีเมจิก

เสริมความรู้ ต่อเติมจินตนาการไปกับปากกาเมจิก 50 สี ให้น้องๆ ได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ พัฒนาทักษะในการวาดรูป และเพิ่มพูนประสบการณ์ไปพร้อมๆ กัน

รู้จัก “PlanToys” แบรนด์ของเล่นจากไม้ยางพาราที่ให้เด็กๆ เล่นสนุกได้แบบรักษ์โลก

นับเป็นเวลา 40 ปีแล้วที่ แปลนทอยส์ (PlanToys) แบรนด์ของเล่นไม้ฝีมือคนไทยได้เริ่มลงมือผลิตของเล่นชิ้นแรกขึ้นใต้แนวคิดที่แตกต่างจากแบรนด์ของเล่นทั่วไป ณ เวลานั้น คือการผลิตของเล่นที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Eco-friendly) ให้เด็กๆ ได้เรียนรู้และเล่นสนุกได้โดยไม่เบียดเบียนธรรมชาติ นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ PlanToys เป็นมากกว่าแบรนด์ของเล่นทั่วไป “เล่นแบบรักษ์โลก”หากเปรียบเป็นตัวบุคคล ปีนี้ PlanToys เป็นผู้ใหญ่ใจดีที่ผ่านประสบการณ์มาแล้วมากมาย ย้อนกลับไปในปี...
Read More

ปลุกความเป็นเด็กใน ‘Toy Story 4’

กลับมาสร้างความประทับใจกันอีกครั้ง สำหรับภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่อง"Toy Story 4" กับการผจญภัยครั้งใหม่แกะกล่องของ "วู้ดดี้", "บัซ" และผองเพื่อนที่จะพาคุณกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง แม้ภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่องนี้จะจับกลุ่มผู้ชมครอบครัวและเด็กเป็นหลัก แต่ความสำเร็จทั้ง 3 ภาคที่ผ่านมานั้น ต้องบอกว่า "Toy Story" ได้จับกลุ่มผู้ชมมากมายทั่วโลก ที่ผ่านมาต้องบอกว่าเรื่องราวได้ดำเนินมาจนถึงจุดสิ้นสุดระหว่างความผูกพันของ "วู้ดดี้" และ "แอนดี้"...
Read More

Toys “R” Us อาณาจักรของเล่นสำหรับเด็กทุกช่วงวัย

ขายของเล่น แต่ทอยส์ "อาร์" อัส (Toys "R" Us) คืออาณาจักรแห่งการเรียนรู้กึ่งสวนสนุกที่ใหญ่ที่สุดสำหรับเด็กๆ ทุกช่วงวัย อัส (Toys "R" Us) ร้านขายของเล่นในสหรัฐอเมริกา มีสาขาตั้งอยู่ในยุโรป เอเชีย โอเชียเนีย แอฟริกาและแคนาดา ทั้งในแบบแฟรนไชส์และไลเซนส์ ร้านสาขาใหญ่ในนครนิวยอร์กที่ตั้งอยู่บริเวณไทม์สแควร์...
Read More

พาย้อนวัยเที่ยวพิพิธภัณฑ์ของเล่น Tooney Toy

พิพิธภัณฑ์ของเล่น Tooney Toy Museum อยู่ใกล้บ้านแม่เตยมากกก​ เรียกได้ว่าผ่านเกือบทุกวันพึ่งมีโอกาสได้พาเด็กๆมาวิ่งเล่น​ นอกจากเป็นพิพิธภัณฑ์​รวบรวมของเล่นแล้วด้านในจะมีคาเฟ่​ และมินิสนามเด็กเล่น​ มุมถ่ายรูปเยอะ​ ถูกใจแม่แน่นอน ในส่วนของพิพิธภัณฑ์​ จะเปิดเฉพาะ​ เสาร​์อาทิตย์​ ก่อนไปยังไงเช็คก่อนนะคะ ชอบใจถูกใจโพสต์​ อย่าลืมกด like กด share ให้เพจแม่ไปไหนหนูไปด้วย​...
Read More

กลับจากล้มละลาย! Toys “R” Us คัมแบ็กยิ่งใหญ่ เปิดตัวปูพรมในห้าง Macy’s กว่า 400 สาขา

หลังจากยื่นขอล้มละลายไปเมื่อปี 2018 ล่าสุด Toys “R” Us แบรนด์ของเล่นขวัญใจเด็ก ๆ ก็ได้ฤกษ์หวนคืนสมรภูมิค้าปลีกของสหรัฐอเมริกาอย่างเป็นทางการ โดยทางค่ายเตรียมเปิดตัวแบบปูพรมในห้าง Macy’s กว่า 400 สาขา ด้านห้าง Macy’s ก็ตอบรับกับการจับมือดังกล่าวด้วยการโชว์ยอดขายสินค้าหมวดของเล่นว่าเติบโตขึ้น 15 เท่าในไตรมาส 1...
Read More

Art Toy คืออะไรกันแน่ !?

Art toy คืออะไร มาจากไหน ? อาร์ตทอย หรือ ดีไซน์ทอย (Design Toy/ Designer Toy) ฝั่งเอเชียจะนิยมเรียกว่า “อาร์ตทอย” ฝั่งตะวันตกจะนิยมเรียกว่า “ดีไซน์เนอร์ทอย” แต่นิยามทั้งสองนั้นมีความหมายคล้ายคลึงกันคือ “ของเล่นที่ศิลปินเป็นผู้ออกแบบและผลิตขึ้นในจำนวนจำกัดเพื่อจำหน่ายหรือส่งมอบให้กับผู้อื่น” อาร์ตทอย นั้นได้ถือกําเนิดในช่วง...
Read More

Toys R Us กลับมาแล้ว จะเริ่มเปิดขายของเล่นในสหรัฐวันเสาร์นี้

หลังจากประสบภาวะล้มละลายตั้งแต่ปี 2017 ร้าน Toys R Us ร้านขายของเด็กเล่นชื่อดังที่เคยเป็นร้านขายของเด็กเล่นที่ใหญ่ที่สุดมีสาขามากที่สุดในโลก ก็กลับมาเกิดใหม่อีกครั้ง และจะเริ่มเปิดสาขาแรกในวันเสาร์ที่ 30 พฤศจิกายน 2019 นี้ (ตามเวลาในสหรัฐ) ร้าน Toys R Us ถาวรขนาดเล็ก 2...
Read More

ของเล่นเด็ก 5 ประเภท เลือกของเล่นให้ลูก เลือกให้ถูก เล่นได้นาน

"ของเล่น" เป็นสื่อที่ช่วยกระตุ้นพัฒนาการของเด็ก ช่วยทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ และช่วยเรื่งความสนุกสนานอีกด้วย แต่อย่าเพิ่งซื้อของเล่นเด็กให้ลูก ของเล่นเด็ก 5 ประเภท เลือกของเล่นให้ลูก เลือกให้ถูก เล่นได้นานถ้าพ่อแม่ยังไม่รู้ว่าของเล่นเด็กมีกี่แบบและแบบไหนเหมาะกับลูกเรา นี่คือ 5 ประเภทของเล่นเด็กเสริมพัฒนาการที่พ่อแม่ต้องรู้ เลือกได้ถูก เล่นได้นาน ไม่เปลืองเงินซื้อของเล่นบ่อยๆ ประเภทของของเล่นเด็ก ของเล่นที่ให้เด็กได้ออกแรง (Active...
Read More

สู่จักรวาล Toy Story อันไกลโพ้น! ที่มา 8 ของเล่นจากอนิเมชั่นที่หลายคนหลงรัก

Toy Story ถือว่าเป็นภาพยนตร์อนิเมชั่นคอมพิวเตอร์กราฟิกที่เดินทางมาอย่างยาวนาน เพราะถ้านับช่วงเวลาตั้งแต่ภาค 1 ออกฉายจนถึงปีค.ศ. 2019 ภาพยนตร์ชุดนี้ก็มีอายุอานาม 24 ปีแล้ว แถมในปีนี้ก็จะมีภาค 4 ออกมาให้ติดตามกันอีก โดยเรื่องราวของ Toy Story 4 นั้นเล่าถึง Woody, Buzz...
Read More

ลูกสาว-ลูกชาย เลือกของเล่นอย่างไรดี

การเล่น เป็นเครื่องมือหนึ่งที่ช่วยกระตุ้นพัฒนาการเด็ก ตั้งแต่เด็กเริ่มใช้มือหยิบจับสิ่งของ หรือเริ่มมีปฏิกิริยาโต้ตอบกับสิ่งรอบตัว การเล่นกับลูก จะช่วยเสริมสร้างทักษะและจินตนาการของลูกได้ พ่อแม่สามารถเล่นกับลูกได้ เช่น ชวนลูกเล่นวิ่งไล่จับ ซ่อนหา พาไปสนามเด็กเล่น ฯลฯ การซื้อของเล่นให้ลูก ก็ช่วยฝึกพัฒนาการ ความคิดสร้างสรรค์ กระตุ้นประสาทสัมผัส ได้เช่นกัน ของเล่นที่ดี ควรปลอดภัยจากสารพิษ ทนทาน...
Read More