Tag: ของเล่นสำหรับเด็ก

รถของเล่น ในปัจจุบันมีมากมายหลายรูปแบบ โดยส่วนมากมักเป็นการย่อส่วนรถที่มีรูปลักษณ์คล้ายจริง หรือเรียกว่าเป็นการจำลองแบบลงมาก็ว่าได้ แต่การจะเลือกของเล่นให้เด็กเล็กนั้น ไม่ว่าจะเป็นรถหรือของเล่นประเภทไหนก็ตาม เราก็ต้องมีหลักในการเลือกให้ถูกต้องเหมาะสม ไม่เพียงแค่เลือกจากรูปแบบความสวยงามให้ถูกใจเด็กเท่านั้น ความปลอดภัยของตัวน้อง ๆ ก็สำคัญ ตอนนี้เราก็มาดูวิธีการเลือก รถของเล่น ที่ถูกต้องเหมาะสมให้น้อง ๆ กันดีกว่า

เลือกขนาดที่เหมาะสมกับช่วงอายุ

รถของเล่น ของเด็กที่มีขายกันอยู่ทั่วไปก็จะมีขนาดที่หลากหลาย สิ่งสำคัญอันดับแรกเลยที่ต้องคำนึงถึงในการเลือกคือ ช่วงอายุของเด็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเราซื้อให้เด็กเล็ก ๆ ประมาณ 1 – 2 ขวบ เราต้องเลือกรถที่มีขนาดใหญ่กว่าฝ่ามือของเด็กขึ้นไปหรือมากกว่านั้นเพื่อเป็นการป้องกันอันตรายที่เด็กจะเผลอกลืนเข้าปาก นอกจากนี้ หากคุณซื้อรถของเล่นที่ขนาดใหญ่ ก็ต้องพยายามอย่าเลือกรถของเล่นที่มีชิ้นส่วนอะไหล่เล็ก ๆ เพราะอาจจะหลุดหายได้ง่ายหรือเสี่ยงต่อการที่เด็ก ๆ จะเอาเข้าปากเช่นกัน พูดง่าย ๆ ว่าสำหรับเด็กเล็กแล้วควรเน้นที่ขนาดใหญ่และไม่มีชิ้นส่วนเล็ก ๆ ก็จะปลอดภัยต่อพวกเค้ามากที่สุด

เลือกตามรูปแบบการเคลื่อนที่ของรถ

นอกจากขนาดที่หลากหลายแล้ว รูปแบบการเคลื่อนที่หรือเคลื่อนไหวของ รถของเล่น ก็มีความหลากหลายเช่นเดียวกัน ตัวอย่างเช่น แบบที่ใช้มือเข็นหรือผลักไปข้างหน้า หรือจะแบบที่ต้องดึงรถถอยหลังแล้วปล่อยทำให้รถเคลื่อนที่เร็ว เป็นต้น สำหรับกรณีที่เราจะซื้อให้เด็กเล็ก การเลือกรถของเล่นที่ใช้ระบบลากรถถอยหลังแล้วปล่อยอาจจะไม่เหมาะสมนักเพราะค่อนข้างเสี่ยงกับการเกิดอันตรายได้ เน้นให้เลือกรถของเล่นแบบที่เข็นไปข้างหน้าจะเหมาะกว่า ยิ่งถ้าเป็นรถที่มีไฟและเสียงดนตรีประกอบไปด้วยล่ะก็ เด็ก ๆ ก็จะยิ่งถูกใจแน่นอน
สำหรับเด็กที่โตกว่านั้น การเลือกรถของเล่นที่มีการเคลื่อนที่หรือจุดขยับที่ซับซ้อนมากขึ้น เช่น รถของเล่นที่เปิดและปิดประตูได้ หรือรถที่ต้องมีการบังคับด้วยตัวเอง ก็จะทำให้เด็กรู้สึกเพลิดเพลินกับการเล่นรถของเล่นมากขึ้นทั้งยังเป็นการพัฒนาทักษะต่าง ๆ ตามช่วงวัยได้อีกด้วย

เลือกวัสดุที่ปลอดภัยและเหมาะสมกับช่วงวัย

โดยธรรมชาติของเด็กเล็ก โดยเฉพาะเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 3 ขวบมักจะชอบนำของเล่นในมือไปใส่ปากเป็นประจำ ดังนั้นเราจึงต้องเลือกวัสดุที่มีความปลอดภัย ไม่มีสารที่เป็นอันตรายต่อเด็ก เช่น พวกวัสดุไม้จากธรรมชาติ หรือพลาสติกที่มีความปลอดภัยตามมาตรฐาน เป็นต้น แต่หากเป็นเด็กที่โตกว่านั้น ควรเลือกวัสดุจำพวกโลหะเพราะจะมีความแข็งแรง ทนทาน ไม่แตกหรือชำรุดง่าย

เน้นการพัฒนาจินตนาการและการเติบโตของเด็ก

โลกของ “รถของเล่น” นั้นถือว่ากว้างมาก ซึ่งความสนุกในการสะสมรถของเล่น ไม่ได้ถูกจำกัดไว้เพียงแค่เด็ก แต่ยังรวมถึงผู้ใหญ่อีกด้วย โดยหนึ่งในองค์ประกอบที่น่าสนใจสำหรับนักสะสมรถของเล่นทั้งหลาย เช่น ฉากจำลองสามมิติ ซึ่งถือเป็นสิ่งที่จะช่วยเติมเต็มความสมจริงให้รถของเล่นและเป็นตัวช่วยผลักดันจินตนาการของเด็กที่เล่นให้มีความเติบโตยิ่งขึ้นด้วย เห็นไหมครับ ว่ารถของเล่นมีประโยชน์กับพัฒนาการของเด็กไม่เบาเลย และยิ่งไปกว่านั้น หากคุณชอบรถของเล่นด้วยแล้ว คุณสามารถเล่นเป็นเพื่อนลูก ๆ ของคุณได้ ก็จะช่วยส่งเสริมสายสัมพันธ์อันดีภายในครอบครัวด้วยนั่นเอง

หลักการเลือกของเล่นสำหรับเด็กปฐมวัย ของเล่นเป็นเพียงส่วนประกอบหนึ่งในการเล่นของเด็กที่ช่วยดึงดูดความสนใจในการเล่นให้กับเด็ก ของเล่นที่ตีอาจเป็นวัสดุสิ่งของที่มีอยู่รอบตัวในชีวิตประจำวันของเด็กก็ได้ นอกเหนือจากของเล่นที่ต้องซื้อหาในท้องตลาด ทั้งนี้จำเป็นต้องคำนึงถึงคุณสมบัติที่เหมาะสมกับความสนใจตามวัยของเด็กเป็นสำคัญ หลักเกณฑ์ในการเลือกของเล่นที่ควรคำนึงถึงมี 4 ประการ ดังนี้

1.ความปลอดภัยในการเล่น ของเล่นสำหรับเด็กอาจทำด้วยไม้ ผ้า พลาสติก หรือ โลหะ ที่ไม่มีอันตรายเกี่ยวกับผิวสัมผัสที่แหลมคม หรือมีชิ้นส่วนผสมในการผลิต มีขนาดไม่เล็กเกินไปจนทำให้เด็กกลืนหรือหยิบใส่จมูกหรือเข้าปากได้ รวมทั้งมีน้ำหนักพอเหมาะที่เด็กสามารถหยิบเล่นได้

2.ประโยชน์ในการเล่น ของเล่นที่ดีควรช่วยเร้าความสนใจของเด็กให้อยากรู้อยากเห็น มีสีสันสวยงามสะดุดตาเด็ก มีการออกแบบที่ส่งเสริมให้เด็กใช้ความคิดและจินตนาการที่จะเล่นอย่างริเริ่ม สร้างสรรค์ หรือ แก้ปัญหา ช่วยในการพัฒนาการกล้ามเนื้อ การเคลื่อนไหวและการใช้มือได้อย่างคล่องแคล่ว ทั้งยังเสริมสร้างการพัฒนาประสาทมือและตาให้สัมพันธ์กัน ซึ่งจะเป็นพื้นฐานในการอ่าน-เขียน-คิดเลขต่อไป

3.ประสิทธิภาพในการใช้ขอเล่น ของเล่นที่เหมาะสมในการเล่นควรมีความยากง่ายเหมาะกับระดับอายุ และความสามารถตามพัฒนาการของเด็ก ของเล่นที่ยากเกินไปจะบั่นทอนความสนใจในการเล่นของเด็ก และทำให้เด็กรู้สึกท้อถอยได้ง่าย ส่วนของเล่นที่ง่ายเกินไปก็ทำให้เด็กเบื่อไม่อยากเล่นได้ นอกจากนี้ของเล่นควรทำให้เด็กได้ใช้ประสบการณ์ตรง และเกิดการเรียนรู้ด้วยตนเอง มีความแข็งแรง ทนทาน และปรับเปลี่ยนดัดแปลงใช้ประโยชน์ได้หลายโอกาส หลายรูปแบบ หรือเล่นได้หลายคน

4.ความประหยัดทรัพยากร ของเล่นที่ดีไม่จำเป็นต้องมีราคาแพงหรือผลิตด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย มีตราเครื่องหมายของบริษัทที่มีชื่อเสียงเป็นที่นิยมทั่วไป หากแต่เป็นของเล่นที่สามารถหาได้ง่าย มีราคาย่อมเยา หรือทำจากวัสดุที่หาได้จากภูมิปัญญาท้องถิ่นหรือวัฒนธรรมพื้นบ้าน

ของเล่นเป็นวิธีการสอนให้เด็ก ๆ รู้จักโลกกว้างวิธีหนึ่ง โดยกระตุ้นให้พวกเขาอยากเกิดความรู้อยากเห็นและเกิดความคิดสร้างสรรค์ ตัวอย่างเช่น รูปสัมผัสของของของเล่นสามารถสอนให้เด็ก ๆ รู้จักวัสดุชนิดต่าง ๆ ของเล่นที่มีเสียงและดนตรีสามารถกระตุ้นให้เกิดการแสดงออกด้านดนตรี หรือการวาดภาพ การสร้างและประกอบชิ้นส่วนต่าง ๆ ก็สร้างเสริมจินตนาการให้กับเด็ก ๆ