ของเล่นเด็กไม่ใช่เรื่องเล็กเสมอ เมื่อการเล่นคือการเรียนรู้ที่จะเป็นผู้ใหญ่

คุณจำของเล่นโปรดของคุณตอนยังเด็กได้หรือไม่ มันไม่สำคัญว่ามันจะเป็นตุ๊กตาตุ๊กตาหมี หรือโมเดลทหารพลาสติก เพราะนั่นคือของเล่นที่คุณชื่นชอบ และคุณรักมันมากกว่าสิ่งอื่นใดในโลกนี้ สิ่งที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน ก็คือมันมีอิทธิพลต่อพัฒนาการของคุณอย่างไร ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาของเล่นยังคงพัฒนาความสามารถและทักษะที่เด็กๆ ต้องการ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับชีวิตในอนาคต วันนี้เราจึงจะพามาทำความเข้าใจว่าทำไมของเล่นจึงมีความสำคัญในการพัฒนาเด็ก

การพัฒนาทักษะทางสังคม
นอกเหนือจากการพัฒนาทักษะทางภาษาของเด็กแล้ว ของเล่นยังสอนทักษะทางสังคม ให้พวกเขาเข้าใจถึงสังคมที่พวกเขาอาศัยอยู่ โดยใช้ของเล่นชวนให้เด็กๆ ได้มีปฏิสัมพันธ์ครั้งแรกกับผู้ใหญ่ จากนั้นกับเด็กคนอื่นๆ ที่มีอายุใกล้เคียงกัน การเล่นง่ายๆ กับเด็กอีกคนหนึ่งเป็นการท้าทาย ให้พวกเขาได้สัมผัสกับสถานการณ์ที่ต้องเรียนรู้บทเรียนที่สำคัญ เช่น การเคารพระหว่างกัน การร่วมมือ การแบ่งปัน ของเล่นยังกระตุ้นให้เด็กใช้ความคิดริเริ่ม เรียนรู้ที่จะเจรจา สอนพวกเขาถึงวิธีการจัดระเบียบในชีวิตที่ดีขึ้น

การพัฒนาองค์ความรู้
ของเล่นมีอยู่หลายประเภท แต่ขอแนะนำให้เป็นสิ่งที่ส่งเสริมพัฒนาการทางปัญญาของเด็ก เพราะจะช่วยให้กระตุ้นสมาธิ รวมถึงทักษะความจำของพวกเขา อย่างเช่น “เกมกระดาน” เปิดโอกาสให้เด็กใช้สมองในการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นกุญแจสู่ความเป็นอิสระในอนาคตของพวกเขา การพัฒนาความรู้ความเข้าใจมีความสำคัญเนื่องจากช่วยให้เด็กๆ ได้เรียนรู้ทักษะคณิตศาสตร์และภาษาในวิธีที่สนุกสำหรับพวกเขา

เสริมสร้างพัฒนาการทักษะทางร่างกาย
ของเล่นทำให้เด็กมีส่วนร่วมในการออกกำลังกาย ช่วยเพิ่มทักษะทางร่างกายที่จำเป็น โดยเฉพาะกล้ามเนื้อแขนขา ไม่ว่าพวกเขาจะระบายสีหรือแต่งตัวตุ๊กตา สิ่งที่เด็กจะได้ประโยชน์ยกตัวอย่างเช่น เด็กจะได้ใช้ความรู้สึกในการสัมผัสและการมองเห็น (ทักษะการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ) ในขณะที่เดิน หรือนั่งรถของเล่นช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางร่างกาย (เสริมทักษะการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ) และเสริมสร้างกำลังให้แขนขา นอกจากนี้ของเล่นยังช่วยให้สร้างความสมดุลของการออกกำลังกายให้แก่เด็ก หลีกเลี่ยงภัยร้ายจากโรคอ้วน

นับตั้งแต่เกิดมาของเด็กทุกคนย่อมต้องการสิ่งกระตุ้น เพื่อพวกเขาได้ใช้อวัยวะสำคัญของร่างกายเพื่อค้นหารูปแบบ สี และเสียง เมื่อทารกรู้วิธีที่จะนั่งหรือคลาน ของเล่นก็กระตุ้นให้พวกเขาเคลื่อนไหวมากขึ้น โดยเฉพาะถ้ามันเป็นของเล่นตัวโปรดของเขา เด็กจะใช้กล้ามเนื้อของตัวเองให้เกิดประโยชน์เพื่อพยายามคลานหรือเดินไปจับของเล่นที่ตนเองต้องการได้

ทำความสะอาดของเล่นให้ปลอดภัย

ทำความสะอาดของเล่นให้ปลอดภัย

สำหรับเด็กๆ แล้ว “การเล่น” คือหัวใจสำคัญอย่างหนึ่งในการเรียนรู้ ของเล่นของลูกเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่พ่อแม่ไม่ควรมองข้าม นอกจากการ
เลือกของเล่นที่มีความปลอดภัยและเหมาะสมกับพัฒนาการของลูกแล้ว ลูกในวัยซนยังเป็นนักสำรวจที่ชอบหยิบทุกอย่างรอบตัวเข้าปาก
ทำให้เชื้อโรคและแบคทีเรียต่างๆ เข้าสู่ร่างกายได้ง่ายขึ้น เพราะฉะนั้น ต้องไม่ลืมการดูแลรักษาความสะอาดของเล่นของลูก เพื่อเป็นการ
สร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกรักมีสุขภาพที่แข็งแรงพร้อมเรียนรู้ทุกอย่างได้เต็มที่ แล้วยังต้องไม่ลืมการดูแลรักษาความสะอาดของเล่นของลูกด้วยค่ะ

ของเล่นไม้
ถ้าเป็นไม้ที่ไม่ได้เคลือบแล็กเกอร์ เพียงผ้าชุบน้ำสะอาด บิดให้หมาด แล้วเช็ดก็เพียงพอแล้วค่ะ แต่คุณแม่ต้องมั่นใจว่าหมาดจริงๆ เพราะไม่อย่างนั้นน้ำจะซึมเข้าเนื้อไม้อาจทำให้เกิดราและเป็นอันตรายต่อลูกได้ ส่วนของเล่นเคลือบแล็กเกอร์ก็ยังใช้ผ้านุ่มชุบน้ำบิดหมาดเช็ดเช่นเดิมค่ะ แต่ห้ามใช้วัสดุที่มีเนื้อหยาบเช็ดเพราะเนื้อไม้จะเป็นรอย หลังเช็ดเสร็จให้นำของเล่นไปวาง ตากแดดหรือให้ลมโกรกจนแห้งก่อนเก็บเข้าที่

ของเล่นพลาสติกและยาง
สามารถทำความสะอาดได้หลายวิธีคือ ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ด แช่ด้วยน้ำสบู่หรือน้ำยาทำความสะอาด จากนั้นสะบัดให้แห้งแล้วตากลมจนแห้งสนิท และเก็บไว้ในที่สะอาดมิดชิด เช่น ในกล่องเก็บขวดนม

ของเล่นไฟฟ้าหรือเสียง
หลีกเลี่ยงการใช้น้ำเช็ดบริเวณจุดที่เป็นต้นกำเนิดไฟฟ้าและกลไกต่างๆแต่ให้ใช้ผ้าสะอาดเช็ดทำความสะอาดแทน ส่วนบริเวณอื่นให้ใช้ผ้าชุบน้ำบิดหมาดๆ เช็ดหากบ้านไหนห่วงเรื่องความสะอาดเป็นพิเศษ อาจเป็นเพราะเจ้าหนูไม่สบายง่ายท้องเสียบ่อย ขอแนะนำให้ผสมน้ำยาฆ่าเชื้อลงไปในน้ำทุกครั้งที่จะทำความสะอาด จะสามารถสกัดกั้นเชื้อโรคได้อีกทางหนึ่งค่ะ

ของเล่นจากผ้า
สังเกตก่อนว่าของเล่นชิ้นนั้นมีส่วนประกอบอื่นๆ นอกจากผ้าหรือไม่ ถ้าทำด้วยผ้าหรือวัสดุที่เปียกน้ำได้หมด ให้แช่ของเล่นในน้ำผสมผงซักฟอกประมาณ 1 ชั่วโมง เพื่อจะได้ซักคราบให้ออกง่ายขึ้น แล้วใช้แปรงถูเบาๆล้างด้วยน้ำสะอาดอีก 2 – 3 ครั้ง จนมั่นใจว่าล้างผงซักฟอกออกจนหมดบีบให้หมาด ตากแดดอ่อนๆ ไว้ เพราะถ้าตากแดดแรงอาจจะทำให้สีซีดแต่ถ้าเป็นตุ๊กตาที่ขนฟูต้องตบให้ฝุ่นออกก่อนค่อยนำไปซัก ที่สำคัญต้องตากแดดจนมั่นใจว่าแห้งถึงข้างในค่ะ ปกติแล้วของเล่นผ้าควรทำความสะอาดอย่างน้อยทุก 2 อาทิตย์หรือแล้วแต่ความสกปรกค่ะ

ของเล่นเสริมพัฒนาการลูก

แม้ของเล่นที่ถูกใจลูกที่สุดก็คือพ่อแม่ แต่หากจะซื้อของเล่น(ที่เป็นของเล่นจริงๆ)ให้หนู ต้องพิถีพิถันมีหลักเกณฑ์ในการเลือกสักนิด ก็จะช่วยส่งเสริมพัฒนาการเด็กได้เป็นอย่างดี

แรกเกิด-3 เดือน: วัยนี้แม้ว่าหนูจะนอนซะเป็นส่วนมาก แต่ก็พบว่าหนูจะตอบสนองต่อเสียงดนตรีได้ดีที่สุดเลย อีกทั้งยังต้องการพัฒนาการด้านสายตาและการสัมผัสเป็นพิเศษอีกด้วยซิ
*ของเล่นที่เหมาะกับหนูน่าจะเป็น โมบายล์หลากสี(โดยเฉพาะสีดำ ขาว แดง จะช่วยกระตุ้นสายตาของหนูได้ดี) เสียงดนตรีจากตุ๊กตาตัวโปรด หรือของเล่นที่ทำด้วยผ้านุ่มนิ่มให้หนูได้สัมผัส

4-6 เดือน: ตอนนี้กล้ามเนื้อต่างๆของหนูเคลื่อนไหวได้คล่องแคล่วขึ้นแล้ว (ฟันเริ่มขึ้นแล้วด้วยนะ) การคลายมือกำมือก็ทำได้ดีขึ้นด้วย(สังเกตดูซิหนูชอบกำผมคุณแม่แน่นกว่าจะแกะได้สำเร็จก็หลุดไปหลายกระจุก) อ้อ..แล้วหนูมองเห็นได้ชัดเจนมากขึ้นด้วย

*ของเล่นที่เหมาะกับหนูน่าจะเป็น ของเล่นที่เคลื่อนไหวได้ จับถนัดมือ บีบได้ ขยำได้ มีพื้นผิวที่แตกต่าง มีเสียง วัยนี้หนูจะมีอาการติดของเล่นบางชิ้นเป็นพิเศษ ของเล่นผิวนุ่มจะช่วยคลายเครียด(ขัดใจ)และทำให้หนูหลับง่ายขึ้น แล้วก็อย่าลืมของเล่นยางสำหรับอาการคันเหงือกของหนูด้วย

7-9 เดือน: วัยนี้หนูซนสุดสุด นอกจากถนัด คลาน และเดินแล้ว หนูยังมีความสุขกับการฝึกกล้ามเนื้อมือ หยิบ จับปล่อย เคาะ แคะ ฯลฯ อีกด้วย แล้วหนูก็เป็นนักสำรวจตัวจิ๋ว ชอบรื้อ ชอบค้นคว้า และสนใจเรื่องขนาด รูปทรงเป็นพิเศษ

*ของเล่นสำหรับหนูวัยนี้ก็น่าจะเป็น ของเล่นกรุ๋งกริ๋ง คว้าจับเขย่ามีเสียง ของเล่นลากจูง บล็อกไม้หยอดรูปทรง ของเล่นประเภทตี เช่น กลอง ไม้เคาะ หนังสือผ้า หรือของเล่นที่เล่นกับน้ำหนูจะสนุกสุดสุดเลย
10-12 เดือน: วัยนี้หนูเริ่มสนใจสังคมรอบๆ ตัวมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เริ่มสนใจพ่อแม่พี่น้อง และคนอื่นๆ ก็หนูรู้สึกว่าหนูก็เป็นคนๆหนึ่งที่แตกต่างจากคนอื่นอย่างชัดเจนแล้วนี่หนูจึงเริ่มมีความคิดที่ซับซ้อนขึ้น มีจินตนาการ ชอบเลียนแบบ มีเหตุมีผลเข้าใจโลกมากขึ้นว่างั้นเถอะ

*ของเล่นของหนูวัยนี้น่าจะช่วยพัฒนาเรื่องความคิดมากขึ้น เช่น หนังสือนิทาน ตุ๊กตา(มีชุดให้เปลี่ยนก็ดีค่ะ) หนังสือภาพสัตว์สีสันสดใส สมุดภาพระบายสี ตุ๊กตาสัตว์มีเสียงร้อง เช่น แมว ร้องเหมียวๆ หมาร้องโฮ่งๆ

และคงปฏิเสธไม่ได้ว่า ไม่ว่ากี่ยุคกี่สมัยของเล่นก็ยังคงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับพัฒนาการของหนูอยู่ แต่ของเล่นเหล่านี้จะไม่มีความหมายเลย ถ้าไม่มีคุณพ่อคุณแม่คอยอยู่ใกล้ชิด ให้ความอบอุ่นคุ้นเคย และให้เวลาอยู่ร่วมเล่นสนุกกับหนู อย่าลืมแบ่งปันเวลารักหนู ดูแลหนูบ้างนะคะ

tip

*ของเล่นหลากหลายแบบมีให้เลือกซื้อหามากมาย แต่สำหรับเจ้าตัวเล็กแล้ว ของเล่นที่ทำจากฝีมือคุณพ่อคุณแม่ ง่ายๆ ไม่ซับซ้อน เลือกสีสดใส ประยุกต์จากของเล่นที่วางขายมากมาย ให้เหมาะกับพัฒนาการแต่ละวัยของลูก เท่านี้ก็มีคุณค่าเทียบเคียง และประหยัดที่สำคัญได้ความภูมิใจไปเต็มๆเลยค่ะ

ที่มา: www.rakluke.com

ของเล่นเด็กอันตรายที่พ่อแม่ไม่ควรมองข้าม

ข่าวอันตรายที่มาจากของเล่นเห็นกันได้บ่อยครั้ง คุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกยังเล็กไม่ควรมองข้ามเรื่องใกล้ตัวนี้ไปนะคะ ของเล่นบางอย่างดูเผินๆแล้วไม่อันตราย แต่ความจริงแล้วอาจอันตรายจนคาดไม่ถึงเลยค่ะ หากคุณพ่อคุณแม่คนไหนที่ชอบซื้อของเล่นให้ลูกเป็นประจำ ลองสังเกตของเล่นอันตรายพวกนี้ดูนะคะ

ของเล่นที่ชิ้นส่วนเล็ก ของเล่นบางอย่างจะมีเศษชิ้นส่วนเล็กๆประกอบอยู่ ระวังอย่าให้ลูกหยิบจับเข้าปากนะคะ เพราะจะทำให้ติดคอจนหายใจไม่ออกถึงขั้นเสียชีวิตได้ค่ะ

ของเล่นที่เจือปนสารเคมี ส่วนใหญ่จะเป็นพวกของเล่นที่มีสีสันสะดุดตา จะใช้สีที่ไม่ได้มาตรฐาน หากลูกเอาของเล่นเข้าปากก็จะทำให้เกิดอันตรายจากสารตะกั่วได้ค่ะ

ของเล่นพวกตุ๊กตา โดยเฉพาะเด็กผู้หญิงที่ชอบเล่นตุ๊กตามากๆ คุณพ่อคุณแม่ต้องระวังให้ดี หากเศษผ้าหรือเศษนุ่นหลุดออกมาติดคอลูกได้นะคะ

ของเล่นพวกอาวุธ สำหรับเด็กผู้ชายที่ชอบให้พ่อแม่ซื้อปืนอัดลมหรือดาบให้ ต้องระวังมากเป็นพิเศษ เพราะอันตรายจากของเล่นพวกนี้มีให้เห็นอยู่มาก เวลาเล่นควรสอนและแนะนำการเล่นที่ถูกต้องให้เขาด้วยนะคะ

เลือกของเล่นอย่างไรให้ลูกปลอดภัย

1. ควรเลือกของเล่นที่ทำจากวัสดุที่แข็งแรง ไม่แตกหักได้ง่าย และเลือกที่ใช้สีธรรมชาติ
2. ควรเลือกของเล่นให้เหมาะกับวัยของลูก เช่น ของเล่นชิ้นเล็กไม่ควรซื้อให้เด็กอายุต่ำกว่า 1 ขวบเล่น เป็นต้น
3..เลือกของเล่นที่มีประโยชน์ เสริมทักษะการเรียนรู้ให้ลูก เช่น ลูกบอล ฝึกกล้ามเนื้อเด็กเล็ก เป็นต้น

12 ของเล่น อันตราย ที่ควรหลีกเลี่ยง

ของเล่น สำหรับเด็กแล้วอุปกรณ์สร้างความสนุกสนานเหล่านี้สำคัญพอๆกับน้ำและอากาศ ของเล่นหลายหลากประเภทที่พ่อแม่สุดจะสรรหามาได้เป็นยาที่ดีที่สุดในการแก้ไม่ให้เด็กเบื่อหน่าย ไม่มีอะไรทำ หากได้ใช้เวลากับของเล่นที่ถูกต้อง เด็กจะมีระดับพัฒนาการที่เร็วขึ้นในเรื่องของการพูด การเคลื่อนไหว และการใช้ตรรกะ แต่คุณพ่อคุณแม่ก็อย่าได้วางใจ เพราะใช่ว่าของเล่นทุกชิ้นจะเหมาะสมกับลูก และส่งเสริมการเจริญเติบโตในด้านบวก

ด้วยว่าความต้องการของเล่นในตลาดมีสูง จึงมีของเล่นใหม่ ๆ มากมายเข้าสู่ร้านค้า แต่ในความจริงคือของเล่นบางชิ้นก็มีอันตราย และสามารถทำให้เด็กบาดเจ็บ ป่วย หรือเสียชีวิตได้ หากคุณเป็นพ่อแม่ ลุง ป้า หรือผู้ปกครองที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเด็ก คุณควรจะระวัง ของเล่น 12 ชนิดต่อไปนี้ ไม่ให้มาอยู่ใกล้เด็ก

1.Polly Pocket Magical Talking Magnetic Playset

ของเล่น จากยี่ห้อ Mattel ชนิดนี้ มีผู้ผลิตเรียกคืนไปแล้ว แต่ก็น่าเศร้าที่ยังมีร้านที่ขายอยู่ ถึงของเล่นชิ้นนี้จะสนุกมาก แต่ก้อนแม่เหล็กขนาดจิ๋วที่ติดอยู่ ก็สามารถจะหลุดออกมาได้ขณะเล่น และเป็นอันตรายมาก หากเด็กนำมาเลีย หรือกิน

2.MagneBlocks Tetra

สร้างขึ้นมาเพื่อตลาดของเด็กวัยก่อนเข้าเรียน ของเล่นชนิดนี้ช่วยเด็กพัฒนาตรรกะ และความคิด แต่ก็โชคร้ายที่ก้อนแม่เหล็กบนของเล่นก็หลุดออกมาง่ายแต่เด็กอาจจะกินเข้าไปได้โดยที่ไม่มีใครรู้

3.เกมส์ตกปลา (ทุกยี่ห้อ)

รอไว้ตกปลาจริง ๆ กับลูกตอนที่เขาโตพอที่จะใช้คันเบ็ดเองดีกว่า เพราะแม่เหล็กที่ติดอยู่กับปลาทุกตัวจากเกมส์ตกปลานั้นอันตรายมากนัก ก้อนแม่เหล็กจะติดอยู่กับทั้งตัวปลา และคันเบ็ด และสามารถหลุดออกมาได้ง่ายๆ ให้เด็กคว้ากินเข้าไป

4.กล่องเครื่องมือของเล่น (ทุกยี่ห้อ)

ของเล่นที่ทำเลียนแบบกล่องเครื่องมือ ควรเอาออกห่างเด็กให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะว่าของเล่นชนิดนี้มักจะมีตะปูของเล่น หรือสกรูของเล่นที่มีขนาดเล็กและเข้าไปติดคอเด็กได้

5.บล็อคต่อชิ้นเล็ก

หากอยากให้ลูกเล่นบล็อคให้ได้มาเป็นวิศวกรตัวน้อย คุณต้องเลือกชนิดของบล็อคที่เหมาะสมกับอายุลูก และถ้าจะให้ดีแต่ละก้อนควรจะมีขนาดใหญ่กว่ากำปั้นของลูกไปเลย  อย่าซื้อบล็อคต่อที่มีขนาดเล็กเช่นยี่ห้อ Lego หรือ Megablocks ที่ลูกสามารถจะเอาเข้าร่างกายได้

6.หุ่นทหารของเล่นจิ๋ว

กองทหารจิ๋วนี้อาจสร้างความเพลิดเพลินได้เป็นชั่วโมง ๆ แต่ถ้าลูกของคุณอายุน้อยกว่า 4 ปี มันอาจจะกลายเป็นสิ่งที่สร้างความเสี่ยงมาติดคอลูกก็เป็นได้

7.เกมส์กระดานและ เกมส์ไพ่ปริศนาต่างๆ

จงซ่อนเกมส์กระดาน และเกมส์ไพ่ปริศนาทุกชิ้นไม่ให้เด็กเห็น เพราะชิ้นส่วนต่าง ๆ จากเกมส์เหล่านี้เล็กพอที่เด็กจะเอาเข้าปากไปได้ง่าย ๆ

8.แตรของเล่น นกหวีด และอื่นๆ

ควรระวังเป็นที่สุด หากจะซื้อของเล่นที่สามารถสร้างเสียงดังให้กับลูก หากลูกสามารถใช้ของเล่นชนิดนี้ได้อย่างเหมาะสมก็ซื้อให้ได้ แต่ถ้าหากลูกใช้ของเล่นพวกนี้สร้างเสียงดังเข้าไปในหูของคนอื่น ก็ควรที่จะเอาของเล่นนี้ไปให้พ้นลูกทันที

9.ปืนของเล่น

ปืนลูกพลาสติคหรือปืนลูกดอกของเล่นไม่ควรซื้อมาให้เด็กเล่นเลย โดยเฉพาะหากลูกชอบที่จะยิงกราดใส่คนอื่นไปทั่ว และตื่นเต้นมากเกินไปกับของเล่นปืน กระสุนพวกนี้ ถึงจะเป็นของเล่น แต่ก็สามารถสร้างบาดแผลให้กับร่างกาย โดยเฉพาะที่ตาหากไม่ระมัดระวัง

10.ดาบ

ดาบ ไม่ว่าจะความยาวขนาดไหนก็ตาม เป็นสิ่งอันตราย โดยเฉพาะเวลาอยู่ในมือเด็กที่เล่นแรง คมดาบที่มีขนาดเล็ก ถืงจะไม่คม แต่ก็สามารถแทงตาสร้างบาดแผล และใช้ฟาดให้เจ็บปวดได้

11.นวมหรือกำปั้นเทียมของ The Incredible Hulk

ของเล่นชนิดนี้อาจทำให้ลูกชายของท่านดูเป็นแมนเต็มตัว แต่อีกด้านนึงมันเป็นสิ่งที่ส่งเสริมให้เด็กวิวาทกัน ซึ่งจะนำไปสู่ความเจ็บปวดทางกายและจิตใจ

12.ของเล่นอะไรก็ตามที่มีรูปร่างกลม (ล้อ ลูกบอล ลูกแก้ว และบอลลูน)

ของเหล่านี้สามารถเข้าไปติดคอเด็กได้ เพราะง่ายนักที่มันจะถูกเด็กหยิบแล้วกลืนเข้าปาก

อันตรายจากของเล่นชนิดปืน

ของเล่นชนิดปืนมีหลายประเภท เช่น ปืนอัดลม ปืนลูกดอก ปืนเหรียญ ปืนลูกบอล เป็นต้น ของเล่นเหล่านี้อาจเป็นอันตรายต่อตาได้ การบาดเจ็บที่ตาเกิดได้จากแรงกระสุนกระแทกที่ลูกตาทำให้เกิดเลือดออกในช่องลูกตา ซึ่งต้องรับการรักษาและการหยุดการเคลื่อนไหวในระยะแรก เพื่อป้องกันการมีเลือดออกมากขึ้น ในบางรายอาจก่อให้เกิดต้อกระจก ตามมาหลังการกระแทก บางรายกระสุนอาจทะลุเข้าฝังในลูกตาหรือกล้ามเนื้อตา บางรายเกิดการแตกของลูกตาและต้องผ่าตัดควักลูกตาทิ้งไป

ในประเทศพัฒนาได้มีความพยายามที่จะควบคุมของเล่นอันตรายโดยได้ออกมาตรฐานของเล่นที่เป็นลักษณะปืนที่ใช้ยิงได้ (ปืนอัดลม ปืนลูกดอก ปืนลูกบอล) โดยได้กำหนดความแรงไว้ไม่ให้เกินมาตรฐานความปลอดภัยที่จะเป็นของเล่นได้ เช่น ในมาตรฐานยุโรปกำหนดให้กระสุนที่นิ่ม ยืดหยุ่นได้มีความแรงไม่เกิน ๐.๕ จูล ส่วนกระสุนแข็งต้องมีความแรงไม่เกิน ๐.๐๘ จูล มาตรฐานที่สองคือมาตรฐานออสเตรเลีย ซึ่งเน้นการตรวจสอบพละกำลังการทะลุทะลวง โดยได้ผลิตแผ่นเยื่ออะลูมินัมฟอยล์มาตรฐานขึ้นมา และเมื่อนำของเล่นประเภทยิง มีกระสุนมาตรวจสอบ หากกระสุนสามารถถูกยิงผ่านทะลุแผ่นเยื่อนี้ไปได้ ของเล่นชิ้นนั้นไม่สามารถขายได้
ในบ้านเรา กระทรวงอุตสาหกรรมได้ควบคุมความปลอดภัยของเล่นชนิดปืนโดยใช้มาตรฐานเดียวกับยุโรป

ปืนอัดลม
ปืนอัดลม เป็นปืนพลาสติก มีกระสุนเป็นเม็ดพลาสติกกลมเล็กๆ กระสุนส่วนใหญ่เป็นสีเหลือง สีอื่นก็มีแต่ไม่นิยม ราคาตกกระบอกละ ๖๐-๒๐๐ บาท แต่ถ้าเป็นปืนที่มีความแรงเพิ่มขึ้น หรือสามารถยิงกระสุนติดต่อกันเป็นชุดได้ ราคาจะสูงเพิ่มขึ้น ปืนที่ราคาแพงจะมีความแรงมากขึ้น อันตรายก็รุนแรงขึ้นมากเช่นเดียวกัน ปืนอัดลมที่มีขายทั่วไปนี้เป็นอันตรายต่อลูกนัยน์ตาเด็กจำนวนมาก ในประเทศสหรัฐอเมริการายงานว่า มีคนที่บาดเจ็บจากปืนอัดลมประมาณ ๓๐,๐๐๐ รายต่อปี ในจำนวนนี้ร้อยละ ๘๑ เป็นเด็กและวัยรุ่นอายุน้อยกว่า ๑๙ ปี การบาดเจ็บนี้ต้องรับการรักษาในโรงพยาบาลร้อยละ ๕ ในจำนวนนี้ร้อยละ ๓๗ เกิดจากการบาดเจ็บที่ลูกนัยน์ตา ในประเทศไทยคาดการณ์ทั่วประเทศน่าจะมีการบาดเจ็บนี้กว่า ๙,๐๐๐ รายต่อปี ปืนอัดลมทั่วไปจะสามารถยิงให้กระสุนเกิดความเร็วได้ไม่น้อยกว่า ๑๐๐ เมตรต่อวินาที หากกระสุนหนักประมาณ ๑ กรัม การยิงจะเกิดแรง ๑๐ จูลซึ่งเกินมาตรฐานถึง ๒๐ เท่า อันจะเกิดอันตรายต่อลูกนัยน์ตาได้อย่างง่ายดาย

การป้องกัน ที่ดีที่สุดคือพ่อแม่ต้องไม่่สนับสนุน ให้ลูกเล่นของเล่นที่มีลูกกระสุนทุกชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเภทปืนอัดลมทุกกลุ่มอายุ แม้ว่าเด็กโตจะสามารถเล่นอย่างระมัดระวังตัวเองได้ก็ตาม แต่มักจะเป็นเหตุให้เด็กอื่นในบ้านได้รับบาดเจ็บ โดยเฉพาะน้องตัวเล็กในบ้าน พ่อแม่ช่วยกันดูแลชุมชนของตน อย่าให้มีปืนอัดลมขายในตลาด พ่อแม่ช่วยกันเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมี การตรวจสอบความแรงของปืนอัดลมที่มีในตลาด รวมทั้งปืนของเล่นที่มีกระสุนทุกชนิด เมื่อพบว่ามีความแรงเกินกว่ามาตรฐานควรมีมาตรการควบคุมเรียกเก็บ จากตลาด การวางขายทั่วไปควรเป็นสิ่งต้องห้าม หน่วยงานที่รับผิดชอบไม่ว่าจะเป็นสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต้องช่วยกันเร่งมือในการตรวจจับของเล่นประเภทนี้เพื่อลดการบาดเจ็บในเด็ก

JKP Toys ของเล่นไม้ ไม้รางลูกคิดจำนวน10หลัก

JKP Toys ของเล่นไม้ ไม้รางลูกคิดจำนวน10หลัก สอนนับเลข1-10

รายละเอียดสินค้า JKP Toys ของเล่นไม้ ยีราฟไม้รางลูกคิดจำนวน10หลัก สอนนับเลข1-10

  • ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการด้านการเรียนรู้เรื่องตัวเลข จำนวนนับ 1-10
  • ช่วยฝึกทักษะการสังเกตเรื่องสีและรูปทรง
  • เสริมสร้างจิตนาการ ฝึกกล้ามเนื้อสัมผัสและการมองเห็น
  • เหมาะสำหรับเด็กอายุ 3 ปีขึ้นไป
  • ทนทาน
  • ขนาด ขนาดสินค้า 22 x 15.5 x 22 ซม
  • สินค้าได้รับมอก.

ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการด้านการเรียนรู้เรื่องตัวเลข จำนวนนับ 1-10 และช่วยฝึกทักษะการสังเกตเรื่องสีและรูปทรง เสริมสร้างจิตนาการ ฝึกกล้ามเนื้อสัมผัสและการมองเห็น เหมาะสำหรับเด็กอายุ 3 ปีขึ้นไป

ประกอบด้วย
1.ลูกคิด 7 แถว แถวละแถวมีสีที่แตกต่างกัน ให้น้องๆ ได้เสริมทักษะการนับเลข เรียนรู้เรื่องสี
2.ขดลวด ลูกปัดไม้ รูปดอกไม้ ผีเสื้อ ให้น้องได้ฝึกการหยิบ จับ การหมุนเล่น การเลื่อนไปมา
3.รางตัวเลข 2 แถว ฝึกจับคู่ ฝึกตัวเลขและจำนวน มีตัวเลข 1-10

ช่วยเสริมทักษะการเรียนรู้ทางคณิตศาสตร์ 

EU แก้ระเบียบการใช้สารเคมีในสินค้าของเล่น-ผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก

นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า คณะกรรมาธิการยุโรป ได้ออกกฎระเบียบ Regulation (EU) 2018/2005 เพื่อแก้ไขกฎระเบียบ Regulation (EC) No 1907/2006 ภายใต้ระเบียบว่าด้วยการจดทะเบียน การประเมินความเสี่ยง การขออนุญาต และการจำกัดการใช้สารเคมีของสหภาพยุโรป (REACH) โดยเพิ่มการจำกัดการใช้สารเคมีในสินค้าของเล่นและผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก จากเดิม 3 ชนิด ได้แก่ (1) Bis (2-ethylhexyl) phthalate (DEHP) (2) Dibutyl phthalate (DBP) และ (3) Benzyl butyl phthalate (BBP) เพิ่มเป็น 4 ชนิด คือ เพิ่ม Diisobutyl phthalate (DIBP) (ในรายการที่ 51 ของภาคผนวก XVII)

ทั้งนี้ ระเบียบใหม่ดังกล่าว ได้จำกัดการใช้สารข้างต้นในปริมาณน้อยกว่า 0.1% ของน้ำหนักพลาสติกที่เป็นวัตถุดิบในการผลิตของเล่นและผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก ได้แก่ อุปกรณ์เพื่ออำนวยความสะดวกในการนอนหลับ การพักผ่อน สุขอนามัย และการให้อาหารเด็ก เป็นต้น ซึ่งระเบียบดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 7 กรกฎาคม 2563 เป็นต้นไป

อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า การจำกัดการใช้สารดังกล่าวนั้น ไม่ครอบคลุมสินค้าบางกลุ่ม เช่น (1) ผลิตภัณฑ์สำหรับอุตสาหกรรมหรือเกษตรกรรม ที่สัมผัสกับเยื่อบุผิวหรือผิวหนังของมนุษย์ต่อเนื่องนานกว่า 10 นาที หรือติดต่อกันเป็นระยะเวลา 30 นาทีต่อวัน (2) เครื่องมือวัดสำหรับใช้ในห้องปฏิบัติการ และ (3) วัสดุสิ่งของที่สัมผัสกับอาหาร อุปกรณ์การแพทย์ อุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ บรรจุภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์ยา เป็นต้น

“ผู้ผลิต ผู้ส่งออกของไทย จะต้องศึกษาระเบียบดังกล่าวให้ดี และเตรียมความพร้อมในการปรับปรุงกระบวนการผลิตให้สอดคล้อง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบในการส่งออกสินค้าเข้าไปยังตลาดสหภาพยุโรป” นายอดุลย์กล่าว

การป้องกันการบาดเจ็บจากเครื่องเล่นในสนามเด็กเล่น

การป้องกันการบาดเจ็บจากเครื่องเล่นในสนามเด็กเล่น จะต้องประกอบด้วยเครื่องเล่นที่ปลอดภัย พื้นสนามที่ดูดซับพลังงานได้ดี การติดตั้งที่ ถูกวิธีไม่ล้มทับเด็ก การทะนุบำรุง และการฝึกอบรมผู้ติดตั้งและผู้ดูแลเด็กขณะเล่น

เครื่องเล่นที่ปลอดภัย มีหลักเกณฑ์เบื้องต้นดังนี้
– อุปกรณ์เครื่องเล่นสนามต้องได้รับการออก แบบให้เหมาะสมกับอายุและพัฒนาการเด็ก โดยแบ่งออกเป็น ๒ กลุ่ม คือ เด็กก่อนวัยเรียน (อายุ ๒-๕ ขวบ) และเด็กในวัยเรียน (อายุ ๕-๑๒ ขวบ)
– เพื่อป้องกันการบาดเจ็บจากการตกและก่อ ให้เกิดการบาดเจ็บที่รุนแรงของศีรษะและสมอง ระยะความสูงจากพื้นสนามถึงพื้นยกระดับของเครื่องเล่นสนาม สำหรับเด็กก่อนวัยเรียนไม่ควรเกิน ๑.๒๐ เมตร และสำหรับเด็กวัยเรียนไม่ควรเกิน ๑.๕๐ เมตร
– ในกรณีเครื่องเล่นสำหรับวัยก่อนเรียน มีความสูงของพื้นยกระดับที่มีความสูงมากกว่า ๕๐ เซนติเมตร หรือเครื่องเล่นสำหรับเด็กวัยเรียนที่มีความสูงมากกว่า ๗๕ เซนติเมตร จะต้องมีราวกันตก หรือผนังกันตก
– การออกแบบบันได และราวบันไดชนิดต่างๆ ต้องคำนึงถึงระยะก้าว ระยะโหน การกำมือเพื่อยึดเหนี่ยวของเด็กในวัยต่างๆ
– เพื่อป้องกันศีรษะติดและกดการหายใจ ช่องต่างๆ ต้องเล็กเกินกว่าศีรษะจะลอดเข้าไปได้ หรือใหญ่พอที่ศีรษะไม่เข้าไปติดค้าง คือช่องต้องมีขนาดน้อยกว่า ๙ เซนติเมตร หรือมากกว่า ๒๓ เซนติเมตร
– เพื่อป้องกันเท้าหรือขาเข้าไปติด พื้นที่เดินหรือวิ่งจะต้องมีช่องว่างไม่เกิน ๓ เซนติเมตร เพื่อไม่ให้ เท้าหรือขาเข้าไปติด
– เพื่อป้องกันนิ้วเข้าไปติด โดยการแหย่หรือลอด จะต้องไม่มีช่องว่างที่อยู่ขนาด ๐.๕ เซนติเมตร ถึง ๑.๒ เซนติเมตร
– เพื่อป้องกันการบาดเจ็บจากการชนกระแทก อุปกรณ์เคลื่อนไหวเช่น ชิงช้า ที่นั่งต้องทำด้วยวัสดุที่ไม่แข็ง
– นอต-สกรูที่ใช้ในการยึดเครื่องเล่นสนาม จะเป็นระบบกันคลาย ต้องออกแบบให้ซ่อนหัวนอต หรือปลายตัดหัวมนที่มีส่วนยื่นไม่เกิน ๘ มิลลิเมตร
– วัสดุที่ใช้ต้องไม่เป็นพิษและมีสารโลหะหนักเจือปนไม่เกินกว่าค่ามาตรฐานในของเล่น

อันตรายจากของเล่น

จากการวิจัยในเรื่องอุบัติเหตุในเด็กของโครง-การวิจัยเพื่อสร้างเสริมความปลอดภัยในเด็ก ภาควิชา กุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี พบว่าสาเหตุสำคัญที่ทำให้เด็กต้องบาดเจ็บ มารับการตรวจรักษาในห้องฉุกเฉินคือการพลัดตกหกล้ม การจราจร บาดเจ็บจากการถูกทิ่มแทง บาด การบาดเจ็บจากการถูกกระแทกชน การบาดเจ็บจากสัตว์กัด และการบาดเจ็บจากความร้อน กลุ่มเสี่ยงที่เกิดการบาดเจ็บในเด็กส่วนใหญ่เป็น กลุ่มเด็กอายุน้อยกว่า ๕ ขวบ ร้อยละ ๔๕ ของการบาดเจ็บในเด็กเกิดขึ้นที่บ้าน ร้อยละ ๒๓ เกิดบน ถนน และร้อยละ ๑๘ เกิดที่โรงเรียน

ของเล่นเด็กผลิตภัณฑ์อันตรายที่พบว่าเป็นสาเหตุของการบาดเจ็บได้บ่อย คือผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับโครงสร้างบ้านและเฟอร์นิเจอร์หลัก ยานพาหนะ สัตว์ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งสุนัข) และของเล่น

ในบรรดาการบาดเจ็บที่เกิดจากของเล่นพบว่า การบาดเจ็บที่รุนแรง มักเกิดจากเครื่องเล่นในสนามเด็กเล่น ของเล่นที่ใช้ยิง (เช่น ปืนอัดลม ปืนลูกดอก) ของเล่นที่ทำให้เคลื่อนที่ได้เร็ว (เช่น รถหัด เดิน จักรยาน) ของเล่นทารก (เช่น กุ๊งกริ๊ง) ของเล่นชิ้นเล็กที่อาจทำให้เกิดการอุดตันทางเดินหายใจเด็ก ของเล่นมีสายยาวซึ่งอาจรัดพันคอเด็ก และของเล่นมีคมทั้งหลาย เป็นต้น

รู้จัก “PlanToys” แบรนด์ของเล่นจากไม้ยางพาราที่ให้เด็กๆ เล่นสนุกได้แบบรักษ์โลก

นับเป็นเวลา 40 ปีแล้วที่ แปลนทอยส์ (PlanToys) แบรนด์ของเล่นไม้ฝีมือคนไทยได้เริ่มลงมือผลิตของเล่นชิ้นแรกขึ้นใต้แนวคิดที่แตกต่างจากแบรนด์ของเล่นทั่วไป ณ เวลานั้น คือการผลิตของเล่นที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Eco-friendly) ให้เด็กๆ ได้เรียนรู้และเล่นสนุกได้โดยไม่เบียดเบียนธรรมชาติ นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ PlanToys เป็นมากกว่าแบรนด์ของเล่นทั่วไป “เล่นแบบรักษ์โลก”หากเปรียบเป็นตัวบุคคล ปีนี้ PlanToys เป็นผู้ใหญ่ใจดีที่ผ่านประสบการณ์มาแล้วมากมาย ย้อนกลับไปในปี...
Read More

ปลุกความเป็นเด็กใน ‘Toy Story 4’

กลับมาสร้างความประทับใจกันอีกครั้ง สำหรับภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่อง"Toy Story 4" กับการผจญภัยครั้งใหม่แกะกล่องของ "วู้ดดี้", "บัซ" และผองเพื่อนที่จะพาคุณกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง แม้ภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่องนี้จะจับกลุ่มผู้ชมครอบครัวและเด็กเป็นหลัก แต่ความสำเร็จทั้ง 3 ภาคที่ผ่านมานั้น ต้องบอกว่า "Toy Story" ได้จับกลุ่มผู้ชมมากมายทั่วโลก ที่ผ่านมาต้องบอกว่าเรื่องราวได้ดำเนินมาจนถึงจุดสิ้นสุดระหว่างความผูกพันของ "วู้ดดี้" และ "แอนดี้"...
Read More

Toys “R” Us อาณาจักรของเล่นสำหรับเด็กทุกช่วงวัย

ขายของเล่น แต่ทอยส์ "อาร์" อัส (Toys "R" Us) คืออาณาจักรแห่งการเรียนรู้กึ่งสวนสนุกที่ใหญ่ที่สุดสำหรับเด็กๆ ทุกช่วงวัย อัส (Toys "R" Us) ร้านขายของเล่นในสหรัฐอเมริกา มีสาขาตั้งอยู่ในยุโรป เอเชีย โอเชียเนีย แอฟริกาและแคนาดา ทั้งในแบบแฟรนไชส์และไลเซนส์ ร้านสาขาใหญ่ในนครนิวยอร์กที่ตั้งอยู่บริเวณไทม์สแควร์...
Read More

พาย้อนวัยเที่ยวพิพิธภัณฑ์ของเล่น Tooney Toy

พิพิธภัณฑ์ของเล่น Tooney Toy Museum อยู่ใกล้บ้านแม่เตยมากกก​ เรียกได้ว่าผ่านเกือบทุกวันพึ่งมีโอกาสได้พาเด็กๆมาวิ่งเล่น​ นอกจากเป็นพิพิธภัณฑ์​รวบรวมของเล่นแล้วด้านในจะมีคาเฟ่​ และมินิสนามเด็กเล่น​ มุมถ่ายรูปเยอะ​ ถูกใจแม่แน่นอน ในส่วนของพิพิธภัณฑ์​ จะเปิดเฉพาะ​ เสาร​์อาทิตย์​ ก่อนไปยังไงเช็คก่อนนะคะ ชอบใจถูกใจโพสต์​ อย่าลืมกด like กด share ให้เพจแม่ไปไหนหนูไปด้วย​...
Read More

กลับจากล้มละลาย! Toys “R” Us คัมแบ็กยิ่งใหญ่ เปิดตัวปูพรมในห้าง Macy’s กว่า 400 สาขา

หลังจากยื่นขอล้มละลายไปเมื่อปี 2018 ล่าสุด Toys “R” Us แบรนด์ของเล่นขวัญใจเด็ก ๆ ก็ได้ฤกษ์หวนคืนสมรภูมิค้าปลีกของสหรัฐอเมริกาอย่างเป็นทางการ โดยทางค่ายเตรียมเปิดตัวแบบปูพรมในห้าง Macy’s กว่า 400 สาขา ด้านห้าง Macy’s ก็ตอบรับกับการจับมือดังกล่าวด้วยการโชว์ยอดขายสินค้าหมวดของเล่นว่าเติบโตขึ้น 15 เท่าในไตรมาส 1...
Read More

Art Toy คืออะไรกันแน่ !?

Art toy คืออะไร มาจากไหน ? อาร์ตทอย หรือ ดีไซน์ทอย (Design Toy/ Designer Toy) ฝั่งเอเชียจะนิยมเรียกว่า “อาร์ตทอย” ฝั่งตะวันตกจะนิยมเรียกว่า “ดีไซน์เนอร์ทอย” แต่นิยามทั้งสองนั้นมีความหมายคล้ายคลึงกันคือ “ของเล่นที่ศิลปินเป็นผู้ออกแบบและผลิตขึ้นในจำนวนจำกัดเพื่อจำหน่ายหรือส่งมอบให้กับผู้อื่น” อาร์ตทอย นั้นได้ถือกําเนิดในช่วง...
Read More

Toys R Us กลับมาแล้ว จะเริ่มเปิดขายของเล่นในสหรัฐวันเสาร์นี้

หลังจากประสบภาวะล้มละลายตั้งแต่ปี 2017 ร้าน Toys R Us ร้านขายของเด็กเล่นชื่อดังที่เคยเป็นร้านขายของเด็กเล่นที่ใหญ่ที่สุดมีสาขามากที่สุดในโลก ก็กลับมาเกิดใหม่อีกครั้ง และจะเริ่มเปิดสาขาแรกในวันเสาร์ที่ 30 พฤศจิกายน 2019 นี้ (ตามเวลาในสหรัฐ) ร้าน Toys R Us ถาวรขนาดเล็ก 2...
Read More

ของเล่นเด็ก 5 ประเภท เลือกของเล่นให้ลูก เลือกให้ถูก เล่นได้นาน

"ของเล่น" เป็นสื่อที่ช่วยกระตุ้นพัฒนาการของเด็ก ช่วยทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ และช่วยเรื่งความสนุกสนานอีกด้วย แต่อย่าเพิ่งซื้อของเล่นเด็กให้ลูก ของเล่นเด็ก 5 ประเภท เลือกของเล่นให้ลูก เลือกให้ถูก เล่นได้นานถ้าพ่อแม่ยังไม่รู้ว่าของเล่นเด็กมีกี่แบบและแบบไหนเหมาะกับลูกเรา นี่คือ 5 ประเภทของเล่นเด็กเสริมพัฒนาการที่พ่อแม่ต้องรู้ เลือกได้ถูก เล่นได้นาน ไม่เปลืองเงินซื้อของเล่นบ่อยๆ ประเภทของของเล่นเด็ก ของเล่นที่ให้เด็กได้ออกแรง (Active...
Read More

สู่จักรวาล Toy Story อันไกลโพ้น! ที่มา 8 ของเล่นจากอนิเมชั่นที่หลายคนหลงรัก

Toy Story ถือว่าเป็นภาพยนตร์อนิเมชั่นคอมพิวเตอร์กราฟิกที่เดินทางมาอย่างยาวนาน เพราะถ้านับช่วงเวลาตั้งแต่ภาค 1 ออกฉายจนถึงปีค.ศ. 2019 ภาพยนตร์ชุดนี้ก็มีอายุอานาม 24 ปีแล้ว แถมในปีนี้ก็จะมีภาค 4 ออกมาให้ติดตามกันอีก โดยเรื่องราวของ Toy Story 4 นั้นเล่าถึง Woody, Buzz...
Read More

ลูกสาว-ลูกชาย เลือกของเล่นอย่างไรดี

การเล่น เป็นเครื่องมือหนึ่งที่ช่วยกระตุ้นพัฒนาการเด็ก ตั้งแต่เด็กเริ่มใช้มือหยิบจับสิ่งของ หรือเริ่มมีปฏิกิริยาโต้ตอบกับสิ่งรอบตัว การเล่นกับลูก จะช่วยเสริมสร้างทักษะและจินตนาการของลูกได้ พ่อแม่สามารถเล่นกับลูกได้ เช่น ชวนลูกเล่นวิ่งไล่จับ ซ่อนหา พาไปสนามเด็กเล่น ฯลฯ การซื้อของเล่นให้ลูก ก็ช่วยฝึกพัฒนาการ ความคิดสร้างสรรค์ กระตุ้นประสาทสัมผัส ได้เช่นกัน ของเล่นที่ดี ควรปลอดภัยจากสารพิษ ทนทาน...
Read More